‘ฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับ’ อาจตกเทรนด์ไปทั่วโลกจากการมาถึงของสมาร์ทโฟน แต่ภาพเหล่านี้ในสหรัฐอเมริกากลับเป็นคนละเรื่อง เพราะชาว Gen Z กำลังหันมาใช้มากขึ้น เนื่องจากต้องการลดระยะเวลาที่อยู่กับหน้าจอ
บริษัทต่างๆ เช่น HMD Global ผู้ผลิต Nokia ยังคงขายอุปกรณ์พกพาหลายล้านเครื่องที่คล้ายกับรุ่นยอดนิยมที่ชอบใช้กันในช่วงต้นปี 2000 ซึ่งรวมถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘ฟีเจอร์โฟน’ ซึ่งเป็นโทรศัพท์แบบฝาพับหรือแบบสไลด์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น GPS หรือฮอตสปอต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘Gen Zalpha’ ลูกผสมระหว่าง Gen Z และ Alpha กลุ่มผู้บริโภคที่ทะยานสู่กำลังซื้อหลัก คาดการใช้จ่ายโตเร็วกว่าเจนอื่น 3 เท่าภายในปี 2030
- ถ้านายไม่มี iPhone ออกจากแก๊งเราไป! ความนิยมของ Apple ทำให้ Gen Z ในอเมริกาที่ใช้ Android ถูกกีดกันออกไปจากกลุ่มเพื่อน
- คนอเมริกัน (เริ่ม) ไม่อยากใช้ Instagram แล้ว หลังมีการค้นหาวิธีลบมากที่สุด ตามมาติดๆ ด้วย Facebook
HMD Global เผยว่ามียอดขายโทรศัพท์แบบฝาพับได้หลายหมื่นเครื่องในแต่ละเดือน แม้ว่าภาพรวมทั่วโลกจะลดลงก็ตาม
จากข้อมูลของ Counterpoint Research ในปี 2022 ยอดขายฟีเจอร์โฟนเกือบ 80% มาจากตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินเดีย แต่บางคนเห็นว่าตัวเลขนั้นเปลี่ยนไป เนื่องจากคนหนุ่มสาวในสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนกลับไปใช้โทรศัพท์เหล่านี้มากขึ้น หลังจากต้องการตัดการเชื่อมต่อจากโซเชียลมีเดีย
เทรนด์ดังกล่าวได้ขยายไปสู่อินฟลูเอ็นเซอร์ด้วย ในขณะเดียวกัน บริษัทต่างๆ เช่น Light และ Punkt กำลังใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวโดยการขายโทรศัพท์ที่จำกัดความสามารถที่มีเพียงข้อความและการโทร
Joe Hollier ผู้ร่วมก่อตั้ง Light กล่าวกับ CNBC ว่าพันธกิจของบริษัทได้สะท้อนใจคนหนุ่มสาวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่เรากำลังพยายามทำกับโทรศัพท์ Light ไม่ใช่การสร้างโทรศัพท์โง่ๆ แต่เป็นการสร้างโทรศัพท์ที่มีความตั้งใจมากขึ้น ซึ่งเป็นโทรศัพท์ระดับพรีเมียมและเรียบง่ายที่ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อต่อต้านเทคโนโลยี” Hollier กล่าว “แต่มันเกี่ยวกับการเลือกอย่างมีสติว่าจะใช้แง่มุมใดของเทคโนโลยีที่เพิ่มคุณภาพชีวิตของตัวเองได้อย่างไร และเมื่อใด”
รายงานของ Statista ประเมินว่า ฟีเจอร์โฟนจะมีมูลค่าราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าที่ลดลง 4.64% ในช่วงปี 2023-2028 ด้านจำนวนคาดว่าจะอยู่ที่ 177.10 ล้านเครื่องภายในปี 2028
อ้างอิง: