×

คน Gen Z จะลงทุนอะไรดีในยุคดิจิทัล? รวมทางเลือกหลากหลายที่จะทำให้การลงทุนเป็นเรื่องสนุกขึ้น

โดย MAYBANK KIM ENG
28.09.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • คนรุ่นใหม่อาจเห็นภาพคนรุ่นก่อนๆ ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจ เช่น อากงเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ รุ่นพ่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ส่วนรุ่นพี่เป็นเจ้าของสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามก็คือแล้ว Gen Z จะมีทางเลือกในการลงทุนทางไหนบ้าง
  • แน่นอนว่าการเล่นหุ้นหรือการลงทุนในหลักทรัพย์ก็ยังเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่ก็อาจจะมีคำถามตามมาว่าการลงทุนในเส้นทางนี้ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่อยู่หรือไม่ 

“มีเงินก้อนเหลือ จะเอาไปทำอะไรดีในยุคดิจิทัล”

 

เชื่อว่าคำถามนี้คงผุดขึ้นมาในใจหลายๆ คน ท่ามกลางกระแสโลกนิยม (Hype) ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ที่มีทางเลือกในการลงทุนหลากหลาย ทั้งลงทุนทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เปิดร้านขายของออนไลน์ หรือลงทุนทางเลือกใหม่อย่าง Cryptocurrency (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกแบบให้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนที่ใช้วิทยาการเข้ารหัสลับเพื่อรับประกันธุรกรรม ควบคุมการสร้างหน่วยเงินเพิ่ม และเพื่อยืนยันความถูกต้องของการโอนทรัพย์ เช่น บิตคอยน์ ที่อาจจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ) 

 

คนรุ่นใหม่อาจเห็นภาพคนรุ่นก่อนๆ ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจ เช่น อากงเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ รุ่นพ่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ส่วนรุ่นพี่เป็นเจ้าของสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามก็คือแล้ว Gen Z จะมีทางเลือกในการลงทุนทางไหนบ้าง

 

แน่นอนว่าการเล่นหุ้นหรือการลงทุนในหลักทรัพย์ก็ยังเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่ก็อาจจะมีคำถามตามมาว่าการลงทุนในเส้นทางนี้ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่อยู่หรือไม่ 

 

หากพิจารณาแค่ข้อมูลเบื้องต้น เช่น ค่าดัชนี (Index) แล้วก็อาจจะตีความได้ว่ามันขึ้นๆ ลงๆ ดูไม่ค่อยน่าสนใจ ซึ่งถ้าเทียบกับคนที่ทำธุรกิจตามกระแสโลกนิยมต่างๆ แล้วดูจะน่าสนใจมากกว่า อย่างไรก็ดี การลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะ ‘ในยุคดิจิทัล’ นั้นยังมีหลายเรื่องที่อาจจะไม่ค่อยปรากฏตามสื่อในวงกว้างมากเท่าไร ทั้งๆ ที่การลงทุนในยุคดิจิทัลนั้นมีความก้าวหน้าและนวัตกรรมไม่แพ้การเติบโตในวงการเทคโนโลยีเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่าง

 

บริการทางการเงินที่เข้าถึงนักลงทุนได้มากขึ้น (Consumerization of Financial Services)

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้อุปสรรคในการเข้าถึงบริการต่ำลง แม้ว่าคุณจะเป็นลูกค้ารายย่อย แต่ก็สามารถเข้าถึงบริการการลงทุนได้เสมือนเป็นลูกค้าชั้นดีในสมัยก่อนเลยทีเดียว ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน (และจะยิ่งดียิ่งขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเองมากนัก ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้วก็สามารถอัปเกรดไปใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, Robo-advisor, Algorithm ต่างๆ เป็นต้น) ดังนั้นนี่คือยุคที่การลงทุนน่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ ซึ่งสามารถใช้บริการเหล่านี้เป็นตัวช่วยได้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อจำกัดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แถมเปิดบัญชีหุ้นก็ทำได้ง่ายขึ้นมาก โดยทำผ่านระบบ e-Open Account ได้เลย

 

การเคลื่อนที่ของธุรกิจ (Momentum)

ในกรณีทั่วไป หากเปิดธุรกิจของตัวเอง คุณอาจต้องใช้เงินทุน (Capital) ในก้อนที่ ‘ใหญ่’ ระดับหนึ่ง และอาจต้องใช้เวลา ‘รอ’ ระยะหนึ่งกว่าที่จะผลตอบแทนกลับมา 

 

แตกต่างจากการลงทุนในหลักทรัพย์ที่คุณสามารถเลือกหุ้นที่มีเงื่อนไขหรือผ่านเหตุการณ์ทางธุรกิจต่างๆ มาแล้ว เช่น ผ่านจุดคุ้มทุน (Break Even) มาแล้ว และสามารถได้ยอดผู้เข้ามาใช้บริการ (Traction) ในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง เสมือนว่าคุณเป็นเจ้าของกิจการคนหนึ่งได้เลยโดยที่ไม่ต้องลงเงินหมดหน้าตัก หรือหยิบยืมเงินของครอบครัวมาเยอะๆ เพื่อลงทุนในธุรกิจที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร 

 

พลังของผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินที่หลากหลาย (Financial Instruments)

ในสมัยก่อน หากนักลงทุนทั่วไปต้องการจะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินอาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ทำได้ยาก และไม่สะดวกนัก แต่ในยุคปัจจุบันปัญหาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว เพราะนอกจากจะเข้าถึงได้อย่างสะดวกและง่ายดายแล้ว นักลงทุนยังสามารถใช้เทคนิคขั้นสูงเพื่อขยายผลตอบแทนได้มากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) หรือซื้อขายหุ้นโดยวางหลักประกัน (Margin) ดังนั้นผลตอบแทนของคุณจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทุนหรือแค่รอให้หุ้นขึ้นเพียงอย่างเดียว พูดง่ายๆ ว่าไม่ได้ลงเงิน 100 แล้วได้เพิ่มแค่ 10 บาทอีกต่อไป ที่สำคัญยังสามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมการลงทุนได้ตลอดผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆ จากอุปกรณ์มือถือในมือได้ทันที 

 

ตัวเลือกการลงทุนอันมหาศาล (Multi-Asset Investment)

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คุณอาจจะมีความคิดที่ว่า Google หรือ Amazon ต้องเป็นบริษัทที่เติบโตและได้กำไรดีอย่างแน่นอน แต่ข่าวร้ายคือในเวลานั้นไม่ได้มีช่องทางที่สะดวกนักในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ 

 

แตกต่างจากตอนนี้ที่คุณสามารถเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย โดยตัวเลือกมีทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หรือสตาร์ทอัพมาแรงที่เข้าตลาดหุ้น นี่คือโอกาสของคุณแล้ว

 

มิติของการพิจารณาการลงทุน (Consideration)

โดยพื้นฐานแล้ว มิติหลักที่ใช้พิจารณาในการลงทุนคือผลตอบแทน แต่ถึงอย่างนั้นในเชิงธุรกิจแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ทั้งค่าเงิน ความผันผวนต่างๆ แต่อีกหนึ่งมิติที่น่าสนใจมากในยุคนี้ก็คือ ‘Purpose’ หรือวัตถุประสงค์การลงทุน เช่น การเลือกลงทุนบริษัทที่มีเป้าหมายเฉพาะทาง เช่น การรักษาสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ การรับผิดชอบต่อสังคม  

 

ซึ่งการลงทุนในยุคดิจิทัลนี้มีตัวเลือกที่คุณสามารถทำตามความต้องการของคุณ (Customize) ได้อย่างมากมาย นอกจากนี้การลงทุนแบบ Thematic Investing ก็ยังเป็นอีกมิติในการพิจารณาการลงทุน โดยคาดการณ์แนวโน้มตลาดว่าจะไปในทิศทางไหน และเลือกการลงทุนในกลุ่มดังกล่าว เป็นต้น ซึ่งนอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นแล้ว คุณก็สามารถลงทุนในกองทุนต่างๆ ได้เช่นกัน

 

ทุกๆ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่อาจไม่ใช่ทุกการลงทุนที่คุณรับรู้ข้อมูลครบทุกด้าน (Filter Bubble)

บางคนอาจคิดว่าการลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์เป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะเวลาหุ้นตัวไหนขึ้นหรือลง (โดยเฉพาะขาลง) มักเป็นข่าวอยู่เสมอ แต่ที่จริงแล้วการลงทุนในหลักทรัพย์นั้นเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีความโปร่งใสมากที่สุดทางเลือกหนึ่ง เพราะว่าบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และอยู่ในการกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งหากคุณมีโปรแกรมเทรดหุ้นบนมือถือ แท็บเล็ต หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณก็จะสามารถเห็นข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย 

 

ตรงข้ามกับการลงทุนในทางเลือกอื่นๆ ที่คุณอาจจะไม่เห็นข้อมูลบางอย่าง และอาจตกอยู่ในภาวะ Filter Bubble ซึ่งหมายถึงการที่คนเราใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter, Instagram หรือ YouTube แล้วอยู่ในโลกของตนเอง โดยมี Filter Algorithm ของโซเชียลมีเดียที่พยายามกรองแต่สิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจเท่านั้น ในขณะที่เรื่องที่ไม่เคยสนใจทั้งที่อาจมีประโยชน์กลับไม่แสดงขึ้นมาให้เราเห็นเลย เราจึงเหมือนติดอยู่ในโลกของ Filter Bubble และอาจจะทำให้พลาดโอกาสรับรู้ข่าวสารการลงทุนดีๆ ไปก็ได้

 

ในปัจจุบันเทคโนโลยีเพื่อการลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์ต่างๆ มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์ต่างๆ มีความน่าสนใจ ไม่ใช่สำหรับคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงคนทุกรุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนยุคใหม่ที่มีธุรกิจสตาร์ทอัพหรือร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเอง หรือนักลงทุนยุคก่อนมีกิจการที่ใหญ่โต คุณก็ยังสามารถลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์เสริมจากธุรกิจที่คุณมีอยู่แล้วได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

 

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 


 

พิเศษ! เพื่อผู้อ่าน THE STANDARD คลิก https://bit.ly/3gWgAgp รับของที่ระลึก โปรโมชันพิเศษฟรีจาก Maybank Kim Eng

 


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising