Gaa คือร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่งมากรางวัลโดยเชฟสาวชาวอินเดีย การิมา อะโรรา (Garima Arora) ซึ่งเดิมที่ตั้งอยู่ในซอยหลังสวน ก่อนที่จะย้ายทำเลมายังบ้านใหม่ในซอยสุขุมวิท 53 ช่วงปลายปี 2020 โดยบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้นนั้นเอื้ออำนวยให้เชฟได้ทำตามความฝันอีกอย่างคือ การทำร้านอาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์นแคชวล แบบที่ใครก็มาได้เรื่อยๆ และไม่ไฟน์ไดนิ่งจ๋าแบบ Gaa และ HERE ก็เกิดขึ้น
ด้วยความประจวบเหมาะที่ทำเลใหม่ สร้างจากบ้านทรงไทยอายุเก่าแก่กว่า 60 ปี ซึ่งยกโครงทั้งหลังจากพระนครศรีอยุธยามาประกอบที่นี่ และปรับเปลี่ยนใต้ถุนบ้านโล่งเตียนให้กลายสภาพเป็นห้องนั่งเล่นอันเป็นที่ตั้งของ HERE ส่วนชั้นบนคือบ้านใหม่ของ Gaa
ตัวร้านให้บรรยากาศสบายๆ มิกซ์แอนด์แมตช์เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นให้ดูไม่เข้ากัน เหมือนเป็นห้องนั่งเล่นในบ้านคนทั่วไป ซ้ายมือเป็นห้องเก็บไวน์แบบควบคุมอุณหภูมิ มีลิสต์ไวน์โลกเก่าหลายฉลากให้เลือกจับคู่กับอาหารอินเดีย เพราะเชฟการิมา ตั้งใจออกแบบให้อาหารทุกจานที่ร้านกินคู่กับไวน์ได้หมด หรือจะสั่งค็อกเทล ม็อกเทล จากบาร์ทองเหลืองด้านในสุดก็ได้
เชฟการิมา ตั้งใจให้ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารอินเดียในแบบที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก จึงเลือกสรรรสชาติและเทคนิคการทำอาหารอินเดียหลากหลายจากทั่วทุกภูมิภาค ด้วยเหตุนี้เราอาจจะเห็นจานที่ดูไม่เหมือนอาหารอินเดีย หรือบางเมนูหน้าตาแตกต่างไปจากที่เสิร์ฟกันปกติ แต่รสชาติยังคงตามแบบฉบับดั้งเดิม
ทีมครัวที่ HERE กับ Gaa เป็นทีมเดียวกัน คอนเซปต์อาหารจะเน้นความเป็นอาหารอินเดียสมัยใหม่ ทั้งเรื่องของการนำเสนอ เทคนิคที่ผสมผสานกับการทำอาหารดั้งเดิม โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นอาหารจากภูมิภาคไหน เพราะเชฟหยิบจับองค์ประกอบและจุดเด่นของอาหารอินเดียทั้งหมดมานำเสนอ โดยเฉพาะเมนูที่คนไทยยังไม่คุ้นชิน
เมนูอาหารมีสองแบบ ระหว่างเมนูอาหารเช้า เสิร์ฟตั้งแต่ร้านเปิดจนถึงเที่ยงตรง เชฟค่อนข้างภูมิใจเสนอ เพราะเป็นอาหารประเภทที่เราไม่สามารถหาจากนอกบ้าน เพราะเป็นเมนูที่เหล่าแม่ๆ จะทำให้ลูกและคนในครอบครัวรับประทานเป็นมื้อเช้า รสชาติสไตล์โฮมมี่ เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
หลังจากนั้นจะเป็นเมนู All Day Dining แบบจัดเต็ม ควบคู่กับอาหารพิเศษที่เชฟและทีมทยอยรังสรรค์และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกเดือน เมนู All Day Dining รสชาติจะจัดจ้านและเข้มข้นขึ้น มีความเป็นอินเดียสตรีทฟู้ด จับคู่กับไวน์ได้ง่าย และเหมาะสำหรับสั่งมาแบ่งกันรับประทานหลายคน
เริ่มต้นด้วย Betel Leaf Chaat (250 บาท) ใบชะพลูทอดราดซอสโยเกิร์ตมะขาม และเมล็ดทับทิม ความกรอบ ความเย็น และรสเปรี้ยวหวานเค็มผสมกันชวนเรียกน้ำย่อยได้ดี
Crispy Squid Koliwada (360 บาท) จานนี้ได้ไอเดียมาจากอาหารแถบเมืองชายฝั่งอินเดีย ปลาหมึกชุบแป้งทอด บีบมะนาวให้ทั่วแล้วดิปมาโยขึ้นฉ่าย ต่อด้วย Spicy Poppadum Chicken (325 บาท) ไก่ชุบแป้งปาปาดัมกับถั่วดาวปั้นก้อนกลมแล้วชุบแป้งทอด มีกลิ่นของส้มยูซุเล็กน้อย กินพร้อมสลัดแตงกวามะเขือเทศ
Goan Chilli Beef Tartare (350 บาท) บีฟทาร์ทาร์รสเผ็ดที่เชฟหมักเนื้อกับพริกแดง ท็อปด้วยไข่เยิ้ม กินกับข้าวเกรียบแป้งสาคู คลุกเคล้าไข่แดงกับเนื้อแล้วแย่งกันจิ้มข้าวเกรียบกับสาคูกันได้เลย
Gaa Corn: If You Know You Know (380 บาท) จานนี้เป็นไฮไลต์และหนึ่งในความทรงจำของหลายๆ คนที่เคยไปดินเนอร์ที่ Gaa เพราะนี่คือข้าวโพดอ่อนย่างสูตรเด็ดในตำนานที่ตอนนี้สั่งแบบอะลาคาร์ตได้แล้ว เชฟย่างข้าวโพดอ่อนกับพริกแดงและเกลือดำ เสิร์ฟพร้อมนมข้าวโพดข้นๆ จิ้มเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น
Lamb Keema, Potato Salli and Butter Bread (390 บาท) เชฟย่อส่วนแกงแกะบดมาทำเป็นขนมปังเนยสดสอดไส้แกงแกะ โรยมันฝรั่งกรอบ
หากไม่ทานแกะ ก็มีเมนูไก่และกุ้งรอให้ชิม Tamarind-glazed Tandoori Chicken (380 บาท) ไก่เคลือบซอสมะขามย่างในเตาทันดูร์แบบดั้งเดิม กับสลัดผักซอสกระเทียมหอมใหญ่ กินเพลินสุดๆ Kaffir Lime Grilled Prawns (550 บาท) กุ้งย่างตัวโตๆ หมักขมิ้น โยเกิร์ต มัสตาร์ด และชีสอินเดียรสเข้มข้น เสิร์ฟคู่กับแป้งข้าวโพดกรอบและอะโวคาโดผสมใบกะหรี่
Homemade Butter, Fried Green Chillies, Tomato and Sourdough (290 บาท) นานพิซซ่าท็อปด้วยพริกทอด
ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศกรีมแท่งสไตล์อินเดีย แนะนำ Peanut Butter, Dark Chocolate Kulfi (110 บาท) รสเนยถั่วและดาร์กช็อกโกแลต หรือ Yuzu, Pickled Lime Kulfi (110 บาท) ไอศกรีมแท่งสไตล์อินเดียรสส้มยูซุและมะนาวดอง
What You Should Know:
- อาหารเช้าให้บริการตั้งแต่เวลา 07.30-12.00 น. หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นเมนู All Day และ Dinner
- จอดรถได้ที่ M.P.K. Apartment หัวมุมซอยก่อนถึงตัวร้าน
HERE
Open: ทุกวัน 07.30-23.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 53
Budget: 1,000-2,000 บาท
Contact: 09 7140 5647
Website: www.herebkk.com
Map: