×

จากประท้วงสู่สนามการเมือง พลังหญิงอเมริกันติวเข้ม ‘วิธีชนะเลือกตั้งปี 2018’

31.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • จากการประท้วง Women’s March หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี นำมาสู่การประชุม Women’s Convention ที่คณะผู้จัดได้วางการเสวนาเรื่องระบบการจัดการองค์กรทางการเมืองหลายประเด็น โดยเนื้อหาที่พวกเขามุ่งเน้นเป็นไปในเชิงปฏิบัติ
  • เฉพาะจำนวนผู้หญิงที่ต้องการลงรับเลือกตั้งหลังทรัมป์ครองตำแหน่งตามข้อมูลของ Emily’s List มีถึง 20,000 คน สวนทางจากปกติที่มีอยู่เพียงหลักพันเท่านั้น
  • “แค่เดินขบวนอย่างเดียวมันไม่พอ” ลินดา ซาร์ซาวเออร์ หนึ่งในคณะกรรมการของ Women’s March เผยผ่านบทสัมภาษณ์ “ในแผนระยะสั้น เราต้องชนะเลือกตั้งปี 2018”

     โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่ประชาชนชาวอเมริกันเลือกตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ เป็นชื่อที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงหลายประการในทางการเมือง และชื่อนี้เองก็นำมาสู่การเดินประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา

 


     เพียงหนึ่งวันให้หลังการปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ผู้คนอย่างน้อย 4 ล้านคนจากเมืองต่างๆ กว่า 600 แห่งทั่วสหรัฐฯ ต่างออกมาประท้วงร่วมขบวนการเคลื่อนไหว Women’s March ที่สนับสนุนสิทธิสตรี สิทธิเพศทางเลือก สิทธิผู้อพยพ สิทธิพลเรือน และประเด็นอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากฝ่ายบริหารชุดนี้

 


     จากการประท้วงนำมาสู่การประชุม Women’s Convention ที่จัดขึ้นในเมืองดีทรอยต์ มลรัฐมิชิแกน ซึ่งคณะผู้จัดได้วางการเสวนาในเรื่องระบบการจัดการองค์กรทางการเมืองหลายประเด็นขนาดที่ผู้สนใจไม่สามารถเข้าร่วมฟังได้หมด บางห้องคนก็ล้นออกมา เนื้อหาที่พวกเขามุ่งเน้นเป็นไปในเชิงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี การระดมทุน แนวทางที่สร้างผลลัพธ์ในเชิงบวก หรือแม้แต่การใช้สื่อสังคมออนไลน์
     ปัจจุบันเฉพาะจำนวนผู้หญิงที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งหลังทรัมป์ครองตำแหน่งตามข้อมูลของ Emily’s List มีถึง 20,000 คน สวนทางจากปกติที่มีอยู่เพียงหลักพันเท่านั้น

 


     ภายในทุกห้องเสวนา ผู้จัดจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมยกมือหากต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไป เกือบทุกห้องมีคนขานรับเกินกว่าครึ่ง และสำหรับบางคนมองว่าการชิงตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่เรื่องของความทะเยอทะยาน แต่เป็นหน้าที่
     “ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันค่อนข้างเห็นแก่ตัว ถ้าไม่ลงเลือกตั้ง” ชาร์ลเซตตา วิลสัน วัย 39 ปี ที่ต้องการชิงเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรมลรัฐมิชิแกนแสดงความคิดเห็น “แม้ว่าฉันจะต้องเสียสละความเป็นส่วนตัวไป แต่มันก็ดีกว่าสำหรับส่วนรวม ดีกว่าสำหรับประชาคม”
     ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำถึงความสำคัญของปฏิสัมพันธ์อย่างการจับมือ การจับไหล่ เพื่อเข้าถึงผู้ลงคะแนนมากขึ้น รวมถึงการจัดการชีวิตครอบครัวและการจัดการเวลาด้วย นอกจากนี้การประชุมยังช่วยให้ข้อมูลทีละขั้นในการลงเลือกตั้งแบบละเอียดยิบ
     “แค่เดินขบวนอย่างเดียวมันไม่พอ” ลินดา ซาร์ซาวเออร์ หนึ่งในคณะกรรมการของ Women’s March เผยผ่านบทสัมภาษณ์ “ในแผนระยะสั้น เราต้องชนะเลือกตั้งปี 2018”
     การเลือกตั้งในปี 2018 เป็นการเลือกตั้งที่มีขึ้นเพื่อชิงเก้าอี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทั้ง 435 ตำแหน่ง รวมถึงเก้าอี้วุฒิสภาอีก 33 ตำแหน่งด้วย

     น่าสนใจว่าโฉมหน้าการเมืองสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน หากได้พลังหญิงมาขับเคลื่อนประเทศ

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising