×

Ford ชะลอโครงการ EV หันมาเน้นรถ Hybrid เหตุกระแสตอบรับน้อยกว่าคาด

22.08.2024
  • LOADING...
Ford Motor

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 สิงหาคม) Ford Motor ประกาศชะลอโครงการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และหันมาเน้นการผลิตโมเดล Hybrid แทน จากแนวโน้มการเปิดรับ EV ที่ช้ากว่าที่ประเมินไว้

 

Ford จะชะลอแผนการสร้างรถกระบะไฟฟ้าที่โรงงานผลิตแห่งใหม่ในรัฐเทนเนสซีไปก่อน โดยแผนเดิมจะเริ่มก่อสร้างในปี 2025 มูลค่าการลงทุน 5.6 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท รวมทั้งยกเลิกแผนการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV 

 

ขณะเดียวกัน Ford จะหันมาเน้นพัฒนารถโมเดล Hybrid ร่วมกับการพัฒนารถตู้ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในปี 2026 ก่อนจะตามมาด้วยการพัฒนารถกระบะไฟฟ้าภายในปี 2027

 

ซึ่งแผนการสร้างรถกระบะไฟฟ้าดังกล่าวจะมี 2 โมเดล โดยโมเดลแรกจะเป็นรถกระบะแบบ Full-Size หรือขนาดเต็มสเกล จะสร้างขึ้นในโรงงานที่รัฐเทนเนสซีในปี 2027 

 

ในขณะที่โมเดลที่สองจะสร้างเป็นรถกระบะไฟฟ้าแบบ Mid-Size ซึ่งจะมีขนาดเล็กลงมา และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโดยทีมงานในรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

John Lawler กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า Ford จะเน้นการผลิตรถในโมเดลที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญและได้เปรียบกว่าคู่แข่ง นั่นก็คือรถกระบะและรถ SUV 

 

ซึ่งการดำเนินตามแผนเหล่านี้เป็นไปเพื่อให้บริษัทคุ้มค่าในการลงทุน และทำกำไรในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าได้ในระยะยาว แม้ในระยะสั้นอาจเป็นภาระทางการเงินของบริษัทได้ 

 

โดยค่าใช้จ่ายพิเศษเหล่านี้ที่ไม่อยู่ในรูปเงินสดจะคิดเป็นมูลค่าราว 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท และค่าใช้จ่ายในรูปเงินสดราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท

 

Lawler กล่าวว่า แผนค่าใช้จ่ายของบริษัทสำหรับ EV ในอนาคตจะลดลงจาก 40% เหลือเพียง 30% ของเงินลงทุน และมีแผนจะผลิตแบตเตอรี่ภายในปี 2025

 

นอกจากนี้ Ford ยังเคยประกาศว่า บริษัทจะยังไม่เปิดตัว EV หากยังไม่มีแนวโน้มทำกำไรได้ภายใน 1 ปี 

 

ทั้งนี้ Ford ก็ยังมีแผนออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในโมเดลที่เปิดตัวไปแล้วอย่าง Ford Mustang Mach-E Crossover และรถกระบะ F-150 Lightning 

 

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X