×

EXCLUSIVE: ทั่วโลกหลั่งไหลเช็กอิน สปป.ลาว Forbes ยกให้เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และต้องไปเยือน หนุน ‘Café Amazon’ สยายปีกสู่ 100 สาขาทั่วประเทศ

20.07.2023
  • LOADING...
Cafe Amazon ลาว

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สปป.ลาว ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติถึงความงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม กระทั่ง Forbes ยกให้ สปป.ลาว เป็นประเทศที่มีเสน่ห์ที่สุดในอาเซียนและต้องไปเยือนสักครั้ง บวกกับเส้นทางธรรมชาติใหม่สุดฮิตรถไฟจีน-ลาว หนุนธุรกิจกาแฟ ‘Café Amazon’ แบรนด์กาแฟสัญชาติไทยครองใจชาว สปป.ลาว จนต้องขยายเพิ่มเป็น 100 สาขาทั่วประเทศ 

 

จากการรายงานข่าวของ Laotian Times ที่ระบุว่า กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว เผยแพร่ข้อมูลว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยว สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลขช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 831,248 คน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 


 

และในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าสู่ สปป.ลาว นั้น มีนักท่องเที่ยวจากไทยมากที่สุด 344,405 คน ตามมาด้วยเวียดนาม 179,885 คน จีน 143,312 คน และนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาก็ยังคงเข้ามาท่องเที่ยวใน สปป.ลาว เช่นเดิม

 

นอกจากนี้ ปีนี้ยังพบปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นคือ สปป.ลาว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากยุโรป โดยแห่เข้ามาท่องเที่ยวถึง 57,408 คนในไตรมาสแรก ส่วนใหญ่มาจากรัสเซียจำนวน 11,573 คน ตามมาด้วยแอฟริกาและตะวันออกกลาง

 

โดยล่าสุดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ จากความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่งและมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดย Forbes ยกให้ สปป.ลาว เป็นประเทศที่มีเสน่ห์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกที่องค์การ UNESCO บรรจุให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สปป.ลาว ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 1.4 ล้านคนภายในสิ้นปี 2023 และตั้งเป้าหมายรายได้สูงถึง 340 ล้านดอลลาร์ จึงเตรียมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในประเทศ รถไฟจีน-ลาว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับเต็มที่

 

พีทีที (ลาว) ครองตำแหน่งผู้นำร้านคาเฟ่

ธีระ วีระวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด ผู้ให้บริการร้านคาเฟ่ อเมซอน หรือแบรนด์ Café Amazonใน สปป.ลาว เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ด้วยรสชาติกาแฟที่ครองใจชาว สปป.ลาว และศักยภาพของกำลังซื้อนักท่องเที่ยว รวมไปถึงนักลงทุนที่เดินทางมาทำธุรกิจใน สปป.ลาว ปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ต้องขยายคาเฟ่จาก 86 สาขา ที่กระจายอยู่เกือบทั่วประเทศ โดยเพิ่มแผนขยายให้เป็น 100 สาขาทั่วประเทศ 

 

“อีกปัจจัยหลักที่เห็นโอกาสในการขยาย Café Amazon สปป.ลาว คือนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาวที่เป็นเส้นทางธรรมชาติที่สวยงาม สะดวก รวดเร็ว จึงมีแผนจะเปิดบริการใน 3 สถานี คือ สถานีนครหลวงเวียงจันทน์ สถานีวังเวียง และสถานีหลวงพระบาง และเปิดบริการในรูปแบบคีออส (Kiosk) คือการเปิดร้านขนาดเล็กที่ไม่มีรูปแบบตายตัว การลงทุนน้อย และเหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าใน สปป.ลาว”

 

ขยายธุรกิจ Non-Oil ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น 10%

ธีระกล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ Café Amazon สปป.ลาว เปิดให้บริการในปี 2015 ในรูปแบบสแตนด์อโลนภายใต้บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติและราคาต่อแก้วที่ย่อมเยาเฉลี่ยที่ 30-40 บาท หรือประมาณ 20,000 กีบ 

 

นอกจากนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจนำเข้าน้ำมันเพื่อจำหน่ายในรูปแบบขายส่งและขายปลีก มีผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งน้ำมันหล่อลื่นที่มีสถานีบริการน้ำมัน 52 แห่งทั่วประเทศ และมีธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ได้แก่ Café Amazon มีศูนย์บริการตรวจเช็กรถยนต์ PROCheck & FIT Auto 9 สาขา, ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea 5 สาขา ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นไม่แพ้กัน

 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท พีทีที (ลาว) ปีนี้และในช่วง 5 ปี บริษัทมีแผนที่จะส่งออกเมล็ดกาแฟคั่ว Roasted Coffee and Green Bean Coffee ให้แก่บริษัทในเครือของ PTTOR ในต่างประเทศ โดยเริ่มจาก PTTOR (Cambodia) และมีแผนเปิดร้าน Café Amazon Concept Store ด้วยการออกแบบให้กลมกลืนกับโรงละคร ผสมผสานวัฒนธรรมอันสวยงาม พร้อมให้บริการ Speed Bar & Slow Bar รายการอาหารและเครื่องดื่มเฉพาะในนครหลวงเวียงจันทน์เป็นแห่งแรก

 

โดยพีทีที (ลาว) จะพัฒนาและตั้งเป้าขยายธุรกิจ Non-Oil ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น 10% ของรายได้รวมภายใน 5 ปี

 

สปป.ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพ

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยว่า บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้ปักหลักธุรกิจร้าน Café Amazon ใน สปป.ลาว ซึ่งตลาดนี้มีความน่าสนใจในแง่ของวัตถุดิบการใช้เมล็ดกาแฟที่ผลิตภายใน สปป.ลาว 100% ทำให้ผู้ประกอบการมีแผนจะขยายธุรกิจในกลุ่มเครื่องดื่มมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสของวัตถุดิบด้านการเกษตรของไทย เช่น เมล็ดกาแฟและนม ที่จะได้รับอานิสงส์ในการใช้ประโยชน์จาก FTA ในการขยายตลาดนมไทยมายังกลุ่มอาเซียนด้วย

 

“สปป.ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการลงทุนร้านคาเฟ่ แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็กที่มีประชากรเพียง 7.5 ล้านคน แต่เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคใน สปป.ลาว เริ่มเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่หันมาบริโภคเครื่องดื่มที่มีแบรนด์และใส่ใจเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ทำให้ร้านคาเฟ่มีโอกาสเติบโตสูง”

 

กาแฟ สินค้าเศรษฐกิจ สปป.ลาว

กาแฟถือเป็นสินค้าเศรษฐกิจสำคัญของ สปป.ลาว ส่วนใหญ่จะปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าในที่ราบสูงโบลาเวนทางตอนใต้ แถบแขวงจำปาสัก เซกอง และสาละวัน โดยกาแฟที่ปลูกจะมีจุดเด่นคือเป็นกาแฟออร์แกนิก มีกลิ่นหอม รสชาตินุ่มแต่มีความเข้ม ส่งผลให้ สปป.ลาว เป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากเวียดนามและอินโดนีเซีย 

 

โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่น เยอรมนี และเบลเยียม ส่งไปเวียดนามอันดับ 1 และส่งมาไทยเป็นอันดับ 2 มูลค่า 25.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising