วันนี้ (3 ธันวาคม) เวลา 17.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ราชวัลลภเทิดไท้จอมราชา 72 พรรษามหามงคล ณ พระลานพระราชวังดุสิต
ในการนี้ พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง ‘องค์ผู้บังคับกองผสม’ พร้อมด้วย พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ในตำแหน่ง ‘องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์’
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงรอเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ พลับพลาที่ประทับ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทางประตูภูธรลีลาศ ถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง ‘องค์ผู้บังคับกองผสม’ ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสมทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพ กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทรงตรวจพลสวนสนาม เมื่อองค์ผู้บังคับกองผสมกราบบังคมทูลรายงานจบแล้ว เสด็จฯ ไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์พระที่นั่งจำนวน 4 กรม 10 กองพัน ซึ่งประกอบด้วย กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ, กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
รวมถึง กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์, กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน, กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งชุมสาย
จากนั้น พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม และทรงสั่งกองผสมเรียบ-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัว 2 จบแล้ว
องค์ผู้บังคับกองผสมทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม ทรงสั่งกองผสมแบก-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ขณะนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ อันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 7 ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในปี 2491 ชื่อ ราชวัลลภ และพระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม แล้วองค์ผู้บังคับกองผสมและพลสวนสนามจึงเริ่มเดินพร้อมกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพล และกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธีหน้าพระที่นั่งชุมสาย
พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับ เสด็จฯ ขึ้นพลับพลาที่ประทับ แล้วประทับยืน ณ หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ตามลำดับ
จากนั้น พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง ‘องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์’ ทรงม้า ‘Fürst Henry’ (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลโท รัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิง วลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับยืน รองผู้บังคับกองผสมสั่งหมู่เชิญธง ทรงรับการถวายเคารพ แล้วประทับพระราชอาสน์
จากนั้น พลโท นราพร แสนธิ รองผู้บังคับกองผสม สั่งแสดงความเคารพธงชัยเฉลิมพล ดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงไชยเฉลิมพล ต่อจากนั้นแตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาชัย หมู่เชิญธงชัยเฉลิมพลเข้าประจำที่หน้าพลับพลาที่ประทับ
จากนั้น พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เข้าประจำแถวหน้าพลับพลาที่ประทับ
ต่อจากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ และกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกับนำกำลังพลสวนสนาม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ
“ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับ ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”
เมื่อกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณจบแล้ว ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า
“ข้าพเจ้ามีความชื่นชมอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ในวันนี้ ขอขอบใจในไมตรีจิตและคำปฏิญาณสัญญาจากใจจริงของทุกคน ขอสนองน้ำใจไมตรีนั้นด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน ความพร้อมเพรียงเป็นสง่าที่ท่านทั้งหลายได้แสดงให้เห็นนี้ เป็นนิมิตหมายอันดีว่าทหารทุกหมู่ทุกเหล่าจะพร้อมเพรียงกันปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ เพื่อความวัฒนาผาสุกของประชาชน
“จึงขอให้ทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกันและร่วมกับทุกคนทุกฝ่ายในบ้านเมือง ใช้ความรู้ ความสามารถ และสติปัญญา ปฏิบัติภารกิจน้อยใหญ่อย่างมีเอกภาพ ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนพร้อมทุกส่วน ก็จะเป็นการรักษาคำปฏิญาณที่ให้ไว้ได้อย่างเที่ยงแท้ อันจะนำมาซึ่งความดีความเจริญทั้งของตนเองและชาติบ้านเมืองอย่างยั่งยืน ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งอำนาจแห่งความจงรักภักดีอันมั่นคงต่อประเทศชาติ จงบันดาลให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ และความสำเร็จในหน้าที่ทุกประการ”
เสร็จแล้วกำลังพลสวนสนามและผู้ร่วมพิธีร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์ถวาย สมควรแก่เวลาจึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ระหว่างที่รถพระที่นั่งกำลังเคลื่อนเข้าสู่ทางประตูภูธรลีลาศนั้น รองผู้บังคับกองผสมนำกำลังพลสวนสนามและผู้ร่วมในพิธีเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วพระลานพระราชวังดุสิต นำมาซึ่งภาพแห่งความประทับใจยิ่ง ที่หน่วยทหารรักษาพระองค์จากเหล่าทัพต่างๆ พร้อมใจกันกระทำพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อถวายความเคารพต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ประจักษ์ว่าทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต ความผาสุกร่มเย็นของราชอาณาจักรไทยมีขึ้นได้ด้วยการหลอมรวมใจของคนไทยทั้งแผ่นดิน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของจิตใจโดยแท้จริง
สำหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ
ทั้งนี้ เป็นโอกาสพิเศษในการถวายความจงรักภักดีและความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นจอมทัพไทย นับแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบพระบรมราชสันตติวงศ์ ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระสติปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ อีกทั้งทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ยังความผาสุกร่มเย็นและมั่นคงสืบมา
กองทัพไทยได้น้อมใจจัดพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังแสดงถึงความเข้มแข็ง สง่างาม และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทหารรักษาพระองค์
โดยจัดกำลังพลสวนสนามจำนวน 4 กรม ประกอบด้วย
- กรมที่ 1 จากกองบัญชาการ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
- กรมที่ 2 จากกรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ และกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์
- กรมที่ 3 จากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์, กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ และกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์
- กรมที่ 4 จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์, กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
รวมทั้งสิ้น 10 กองพัน และ 1 หน่วยทหารม้ารักษาพระองค์ ซึ่งเป็นการสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน
การจัดพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2496 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเป็นองค์ประธานงานวันสถาปนากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ปีที่ 85 ณ พระลานพระราชวังดุสิต นับเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์
ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา, ช่างภาพพูล