วันนี้ (1 มีนาคม) ที่โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข, นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่สังเกตการณ์การวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกของจังหวัดปทุมธานี พร้อมให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่
อนุทินกล่าวว่า ปทุมธานีเป็นจังหวัดในพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ซึ่งคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ 8,000 โดส ก่อนในระยะแรก เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ และเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายวันนี้เป็นวันแรก ฉีดเข็มแรกให้กับ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และจะทยอยฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดไว้ 4,000 คน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของโรงพยาบาลภาครัฐ มหาวิทยาลัย และเอกชน 1,500 คน เจ้าหน้าที่ด่านหน้าอื่นๆ ที่ได้ลงพื้นที่ในตลาดพรพัฒน์และตลาดสุชาติ 1,000 คน ประชาชนที่มีโรคประจำตัว 1,000 คน และประชาชน พ่อค้า/แม่ค้า ในตลาดพรพัฒน์และตลาดสุชาติ 500 คน สำหรับโรงพยาบาลปทุมธานี วันนี้ได้เตรียมวัคซีนโควิด-19 บริการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม คาดว่าจะฉีดครบทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ ตามที่โรงพยาบาลได้นัดหมายไว้
“หลังจากที่ผมได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 วัน ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ ยังแข็งแรง สามารถทำงานได้ตามปกติ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนที่ฉีดมีความปลอดภัย ผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และขึ้นทะเบียนจาก อย. ก่อนนำมาใช้” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลกได้ระบุเป็นสโลแกนไว้ว่า “Nobody is safe until everybody is safe จะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนปลอดภัย” ซึ่งสอดคล้องกับระบบการบริหารจัดการวัคซีนของประเทศ ที่ได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายโดยเร็วที่สุด ซึ่งวัคซีนที่จัดหาไว้จำนวน 63 ล้านโดส จะทยอยฉีดให้กับประชาชนอย่างครอบคลุม เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ โดยรัฐบาลจะให้ทุกคนในประเทศได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคตามความสมัครใจ ฟรีทั้ง 2 เข็ม ภายในปี 2564 นี้ ขออย่าหลงเชื่อการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากพบขอให้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เช่น ถ่ายรูป คลิปวิดีโอ และนำหลักฐานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือโรงพยาบาลได้ทันที
ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียนจองวัคซีนหรือให้มาขอรับการฉีดด้วยตนเองที่โรงพยาบาล กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดหรือประชาชนกลุ่มเสี่ยงจะพิจารณาจากข้อมูลทางระบาดวิทยาเป็นหลัก ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ติดต่อและนัดหมาย โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ทางไลน์ ‘หมอพร้อม’ หากไม่มีสมาร์ทโฟน จะมีทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปชี้แจงและเชิญเข้ารับวัคซีน และขอให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โหลดไลน์ ‘หมอพร้อม’ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารการรับวัคซีน หรือโทรสอบถามกับโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล