×

Fed มองเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย, ทรัมป์หนุน Oracle ซื้อ TikTok: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 ส.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
20.08.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาที่ 925,000 ราย ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 963,000 ราย โดยเป็นการลดลงต่อเนื่อง จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้การจ้างงานฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคบริการที่คลายความกังวลด้านการปิดเมืองลง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มขยายตัวจากอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำ ขณะที่ทางการจีนมีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีของจีน ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 3.85% เท่าเดิม เนื่องจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ในปัจจุบันได้ใช้การเสริมสภาพคล่องผ่านการให้สินเชื่อแก่ธนาคารพาณิชย์และวิสาหกิจของรัฐโดยตรงมากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

 

  • วานนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เผยแพร่รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในช่วงวันที่ 28-29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% โดยรายงานระบุว่าโดยรวม FOMC ยังมีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่มีสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้างงานและการบริโภคที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าภาคธุรกิจหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์จาก Supply Chain Shock ยังคงส่งผลให้ภาคธุรกิจฟื้นตัวได้น้อย ส่งผลให้การจ้างงานฟื้นตัวได้เพียงประมาณ 1 ใน 3 ของการจ้างงานที่เสียไป ซึ่งโดยรวมจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว ด้านตลาดการเงินเริ่มสะท้อนว่ามีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ หากการแพร่ะระบาดของโควิด-19 กลับมาอีกครั้ง พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อสถานการณ์หนี้ภาครัฐและกลุ่มธุรกิจที่มิใช่การเงินที่เพิ่มขึ้นสูงช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการทำงานของตลาดในระยะต่อไป ด้านนโยบายการเงิน FOMC ยังระบุว่า พร้อมที่จะดำเนินนโยบายทางการเงินจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าผ่านพ้นวิกฤต และบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและเสถียรภาพด้านราคาให้ได้ โดย FOMC ยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อไป เพื่อรักษากลไกในตลาดกู้ยืมระยะสั้น และพิจารณาการใช้ Forward Guidance เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและ Accountability ของการส่งสัญญาณในการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างความชัดเจนถึงแนวทางการดำเนินนโยบายในอนาคต

 

  • วานนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า พบผู้ป่วยติดโควิด-19 สองรายที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังกลับจากต่างประเทศ และกักตัวครบ 14 วัน สร้างความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ในไทยอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รพ.รามาฯ ได้ติดตามนำตัวมาดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมทั้งประเมินว่า มีโอกาสเป็นการติดเชื้อในประเทศได้น้อยมาก แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งได้ดำเนินการประสานหน่วยงานติดตามคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังเพิ่มเติม

 

  • หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนาม Executive Order ให้ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok เร่งขายหรือเลิกกิจการภายในสหรัฐฯ ในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งในเวลาต่อมามีรายงานว่า Oracle ได้มีการเจรจาในขั้นต้นเพื่อซื้อกิจการดังกล่าวกับ ByteDance นั้น ล่าสุดวานนี้ทรัมป์ให้สัมภาษณ์นักข่าวต่อประเด็นดังกล่าวว่า Oracle เป็นบริษัทที่เหมาะสมกับการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์มองท่าทีในครั้งนี้ว่า ส่วนหนึ่งทรัมป์ต้องการให้ TikTok เป็นกิจการของสหรัฐฯ ภายใต้แบรนด์ใดก็ได้ หรือหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ก็จะกดดันให้ ByteDance เลิกดำเนินกิจการได้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อสหรัฐฯ ทั้งสองทาง

 

  • วานนี้ จ้าวลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงตอบโต้สหรัฐฯ เพิ่มเติมต่อกรณีของ Huawei ว่า สหรัฐฯ ได้นำประเด็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติและอำนาจรัฐมาใช้ในทางที่ผิด สหรัฐฯ ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก การกระทำของสหรัฐฯ จะบ่อนทำลายผลประโยชน์ของชาติและภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ เอง พร้อมทั้งระบุว่า ที่ผ่านมานั้นบริการของ Huawei ไม่เคยมีปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แต่อย่างใด และไม่เคยมีหลักฐานว่า Huawei มีการใส่ ‘ช่องโหว่’ หรือ Backdoor ในสินค้าของ Huawei อย่างที่สหรัฐฯ กล่าวโจมตีเรื่อยมา ซึ่งทางการจีนพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของกลุ่มบริษัทจีนต่อไป

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากคำแถลงของทาง Fed ที่ไม่มั่นใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าสิ้นสุด รวมไปถึงความล่าช้าของมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส ซึ่งจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็จะล่าช้าไปอีก สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% (YoY) ซึ่งยังอยู่ในระยะขยายตัวอยู่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเล็กน้อยแม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบจะออกมาลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซินที่ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยหนุนตลาดให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนจากที่ก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวขึ้นมากว่า 3%

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 27692.88 ลดลง -85.19 (-0.31%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3374.85 ลดลง -14.93 (-0.44%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11146.46 ลดลง -64.38 (-0.57%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12977.33 เพิ่มขึ้น 95.57 (0.74%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6111.98 เพิ่มขึ้น 35.36 (0.58%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3317.62 เพิ่มขึ้น 27.98 (0.85%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 20055.4 เพิ่มขึ้น 209.79 (1.06%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23110.61 เพิ่มขึ้น 59.53 (0.26%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6167.6 เพิ่มขึ้น 44.2 (0.72%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3408.13 ลดลง -42.96 (-1.24%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13480.85 ลดลง -287.31 (-2.09%)
  • China A50 อยู่ที่ 15477.98 ลดลง -217.53 (-1.39%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 25178.91 ลดลง -188.47 (-0.74%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12778.64 ลดลง -93.5 (-0.73%)
  • SET อยู่ที่ 1308.67 ลดลง -21.44 (-1.61%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2360.54 เพิ่มขึ้น 12.3 (0.52%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5272.81 ลดลง -22.36 (-0.42%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 38614.79 เพิ่มขึ้น 86.47 (0.22%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 6042.12 ลดลง 0 (0%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 42.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.19 (0.45%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 45.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 (0.38%)
  • ราคาทองคำอยู่ที่ 1936.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -68.41 (-3.41%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising