×

จับตารายงานการประชุม Fed หลังเกิดความกังวล Inverted Yield Curve ชี้นำวิกฤตล่วงหน้า: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (19 ส.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
19.08.2019
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ 1. ดุลการค้าประเทศญี่ปุ่นประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งถูกกดดันโดยการแข็งค่าของเงินเยน และความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขาดดุล 200,000 ล้านเยน จากการส่งออกที่ถูกคาดการณ์ว่าจะหดตัว 2.2% (YoY) ซึ่งเป็นการหดตัว 8 เดือนต่อเนื่อง 2. PMI เบื้องต้น ยุโรปและเยอรมนี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยุโรปยังคงอยู่ในแดนหดตัวต่อเนื่อง สวนทางกับภาคการบริการที่ยังขยายตัวได้อยู่ ในส่วนของอุตสาหกรรมคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 46.3 และ 43.1 จุดตามลำดับ ขณะที่ภาคการบริการคาดว่าจะอยู่ที่ 53.0 และ 54.1 ตามลำดับ 3. ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนมุมมองทางเศรษฐกิจระยะยาวของชาวอเมริกัน โดยคาดว่าจะหดตัว 0.2% (MoM) หรือ 645,000 หลัง สะท้อนเศรษฐกิจที่ยังขยายตัว แต่เริ่มมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่มากขึ้น 4. PMI สหรัฐฯ ทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและบริการ ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาที่ 50.5 และ 52.9 ตามลำดับ ซึ่งยังอยู่ในแดนขยายตัวต่อเนื่องทั้งคู่ 

 

  • จับตารายงานการประชุม FOMC โดยสัปดาห์นี้มีกำหนดการแถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเกิด Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นสัญญาณชี้นำวิกฤตล่วงหน้าประมาณ 12-24 เดือน ส่งผลให้นักลงทุนจับตามองท่าทีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลาง

.

  • สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อาจต่อใบอนุญาตชั่วคราวสำหรับบริษัท Huawei ในการซื้อสินค้าสหรัฐฯ ได้ต่ออีก 90 วัน โดยข้อตกลงเดิมนั้นจะสิ้นสุดในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากมีการต่อใบอนุญาตจะส่งผลให้ Huawei สามารถให้บริการเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนและ Huawei ยังไม่แสดงท่าทีต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

  • สิงคโปร์เดินหน้ายืดอายุการเกษียณออกไปจากเดิมที่ 62 ปี เป็น 65 ปี พร้อมกับอนุญาตต่ออายุการจ้างงาน หรือการจ้างงานใหม่ได้ถึงอายุ 70 ปี จากเดิม 67 ปี และเพิ่มอัตราการสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่เกษียณอายุในปี 2030 ได้รับสวัสดิการที่มากขึ้น

 

  • บสก. เตรียม IPO มูลค่าเกือบ 9 พันล้านบาท โดย สมพร มูลศรีแก้ว กรรมการผู้จัดการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) หรือ บสก. เปิดเผยว่า บริษัทและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในอนาคต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ BAM มีแผนขายหุ้น ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น 54.4% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว

 

ภาวะตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา

  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่น ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลังเป็นวงเงินสูงถึง 3.1 แสนล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการในแดนบวก โดยกลุ่มผู้นำตลาด ได้แก่ ธนาคาร STOXX 600 Banks Index (+2.38%) และเทคโนโลยี STOXX 600 Technology Index (+1.68%) ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยกลุ่มที่โดดเด่นได้แก่ อุตสาหกรรม S&P 500 INDUSTRIALS (+1.90%), กลุ่มเทคโนโลยี S&P 500 INFORMATION TECHNOLOGY (+1.88%) และกลุ่มสถาบันการเงิน S&P 500 FINANCIALS (+1.86%)

 

  • ตลาดส่งสัญญาณเข้าภาวะ Risk On อีกครั้ง หลังจากสหรัฐฯ พร้อมเจรจากับจีนอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้อัตราผลตอบแทนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งล่าสุดสัญญาณ Inverted Yield Curve กลับมาอยู่ในแดนบวกอีก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.593% หรือปรับตัวขึ้น (+3.42%) ขณะที่อายุ 2 ปีอยู่ที่ 1.511% หรือปรับตัวขึ้น (+2.23%)

 

ยุโรป

  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3329.08 เพิ่มขึ้น 46.3 (1.41%)
  • DAX ปิดที่ 11562.74 เพิ่มขึ้น 150.07 (1.31%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7117.15 เพิ่มขึ้น 50.14 (0.71%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 20322.59 เพิ่มขึ้น 302.31 (1.51%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 20368.85 ลดลง -36.8 (-0.18%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6405.5 ลดลง -2.6 (-0.04%)
  • Shanghai ปิดที่ 2823.82 เพิ่มขึ้น 8.03 (0.29%)
  • Hang Seng ปิดที่ 25734.22 เพิ่มขึ้น 238.76 (0.94%)
  • SET ปิดที่ 1631.4 เพิ่มขึ้น 27.37 (1.71%)
  • KOSPI ปิดที่ 1927.17 ลดลง -11.2 (-0.58%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 37350.33 เพิ่มขึ้น 38.8 (0.1%)

 

อเมริกา

  • Dow 30 ปิดที่ 25886.01 เพิ่มขึ้น 306.62 (1.2%)
  • S&P 500 ปิดที่ 2888.68 เพิ่มขึ้น 41.08 (1.44%)
  • Nasdaq ปิดที่ 7895.99 เพิ่มขึ้น 129.38 (1.67%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 54.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0 (0%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 58.69 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 (0.79%)
  • ราคาทองคำ ปิดที่ 1523.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง -7.4 (-0.48%)

FINNOMENA

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising