×

สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีจีน หลังจีนประกาศยกเว้นภาษีสินค้า 16 รายการ: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (12 ก.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
12.09.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • บรรยากาศสงครามการค้าเริ่มผ่อนคลาย โดยวานนี้รัฐบาลจีนได้ประกาศยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่เคยเรียกเก็บตั้งแต่ปี 2018 ที่อัตรา 25% เพื่อลดแรงกดดันและผลกระทบจากประเด็นการค้า โดยครอบคลุมสินค้า 16 ประเภท ได้แก่ ยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ น้ำมันหล่อลื่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2019 ถึง 16 กันยายน 2020 ขณะที่สหรัฐฯ ตอบรับท่าทีดังกล่าวด้วยการประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก 25% เป็น 30% ในสินค้ามูลค่ากว่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อตลาดการลงทุนทั่วโลก

 

  • ตลาดจับตามาตรการ ECB วันนี้ โดยวันนี้มีกำหนดการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจอย่าง Manufacturing PMI อยู่ในแนวโน้มหดตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับ GDP ที่ขยายตัวเพียง 0.2% ทั้งในส่วนของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ถึง 0.20% นอกจากนี้ยังอาจกลับมาเริ่มใช้มาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) อีกครั้ง และประกาศใช้ระบบอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ตลาดยุโรปและราคาทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบวานนี้

 

  • จับตาการประชุมกลุ่มพลังงาน โดยกลุ่มโอเปคมีกำหนดการประชุมด้านทิศทางราคาน้ำมันวันนี้ ภายใต้ความคาดหวังจากนักวิเคราะห์ว่าจะมีการตัดสินใจลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันให้กลับมาอยู่เหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ตามความต้องการของซาอุดีอาระเบียซึ่งมีการปรับโครงสร้างกระทรวงพลังงานไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่สามารถพยุงราคาน้ำมันได้ตามเป้าหมาย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหากการประชุมประสบผลสำเร็จอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวขึ้นทันที ก่อนที่จะเผชิญแรงกดดันจากการเพิ่มกำลังการผลิตจาก Shale Oil อีกครั้ง

 

  • ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเดินหน้าเจรจาซื้อกิจการตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดย Hong Kong Exchanges & Clearing บริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ประกาศยื่นข้อเสนอซื้อ London Stock Exchange Group บริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนด้วยมูลค่ากว่า 36,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างจีนและทั่วโลกครั้งใหญ่ผ่านทางการเป็นศูนย์กลางการเงินของทั้งสองประเทศ

 

  • โดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ากดดัน Fed ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% โดยวานนี้เขาทวีตข้อความว่า Fed ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0% หรือต่ำกว่านั้น เพื่อให้ชาวอเมริกันสามารถปรับโครงสร้างหนี้ แต่เป็นเพราะความดื้อรั้นของ เจอโรม พาวเวลล์ ทำให้สหรัฐฯ สูญเสียโอกาส ด้าน J.P. Morgan บริษัทวาณิชธนกิจรายใหญ่เผย เตรียมหามาตรการรองรับกรณีอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ติดลบ โดยมองว่ามีความเป็นไปได้ต่ำ แต่เป็นมาตรการที่ต้องจัดเตรียมไว้ตามนโยบายการบริหารความเสี่ยง ก่อนหน้านี้ J.P. Morgan คาดการณ์ว่าแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่ผ่านมามีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดที่ 4.0% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมและมากพอที่จะสำรองยามต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • จีนประกาศยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ ในบางส่วน จากที่เคยเรียกเก็บในอัตรา 25% รวม 16 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ยา อาหารปศุสัตว์ ไปจนถึงน้ำมันหล่อลื่น เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่ม 16 กันยายน 2019 ถึง 17 กันยายน 2020 นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการค้าโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวในแดนบวก

 

  • แต่ตลาดหุ้นจีนกลับปรับตัวในแดนลบ หลังจากผลสำรวจจากสภาหอการค้าสหรัฐฯ ในเซี่ยงไฮ้เผย บริษัทอเมริกันต่างพากันย้ายออกจากจีนเร็วขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษี ส่งผลให้ดัชนี Shanghai ปิด -0.41%, SZSE Component ปิด -1.12% และ China A50 ปิด -0.75%

 

  • ราคาน้ำมันปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ มีแนวโน้มผ่อนคลายลงนับตั้งแต่ทรัมป์ปลด จอห์น โบลตัน อย่างกะทันหัน และหากอิหร่านถูกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรก็จะสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันด้าน Supply เพิ่มขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงต้องจับตา

 

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ตลาดหุ้นได้รับข่าวดีจากแนวโน้มการค้าโลกที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ขณะที่ VIX Index ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 14.61 จุด บ่งชี้ถึงความกังวลต่างๆ ที่เริ่มผ่อนคลายอย่างชัดเจน

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 27137.04 เพิ่มขึ้น 227.61 (+0.85%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3000.91 เพิ่มขึ้น 21.52 (+0.72%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8169.68 เพิ่มขึ้น 85.52 (+1.06%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 12359.07 เพิ่มขึ้น 90.36 (+0.74%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7338.03 เพิ่มขึ้น 70.08 (+0.96%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3516.82 เพิ่มขึ้น 17.83 (+0.51%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 21891.57 เพิ่มขึ้น 22.56 (+0.1%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 21597.76 เพิ่มขึ้น 205.66 (+0.96%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6638 เพิ่มขึ้น 23.9 (+0.36%)
  • Shanghai ปิดที่ 3008.81 ลดลง 12.39 (-0.41%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9853.72 ลดลง 111.2 (-1.12%)
  • China A50 ปิดที่ 13786.74 ลดลง 103.52 (-0.75%)
  • Hang Seng ปิดที่ 27159.06 เพิ่มขึ้น 475.38 (+1.78%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 10790.35 เพิ่มขึ้น 36.77 (+0.34%)
  • SET ปิดที่ 1674.03 เพิ่มขึ้น 8.1 (+0.49%)
  • KOSPI ปิดที่ 2049.2 เพิ่มขึ้น 17.12 (+0.84%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6381.95 เพิ่มขึ้น 45.28 (+0.71%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 37270.82 เพิ่มขึ้น 125.37 (+0.34%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7967.9 เพิ่มขึ้น 38.42 (+0.48%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 55.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.41 (-2.46%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 60.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.43 (-2.29%)
  • ราคาทองคำ ปิดที่ 1502.65 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.45 (+0.23%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising