×

ทรัมป์สั่งห้ามสายการบินจีนเข้าประเทศ กดดันจีนเปิดน่านฟ้า, เกาหลีใต้เผยรายละเอียดงบกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (4 มิ.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
04.06.2020
  • LOADING...

– จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Initial Jobless Claim) ประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะลดลง 9 สัปดาห์ต่อเนื่อง สู่ระดับ 1.8 ล้านตำแหน่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.12 ล้านตำแหน่ง สืบเนื่องจากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดประชุมและตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ระดับ -0.50 แต่นักลงทุนยังคงติดตามท่าทีต่อนโยบายการเงินต่อไปว่าจะมีการเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม หรือใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ 

 

– โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศห้ามเครื่องบินจีนบินเข้าสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้กรณีจีนห้ามเครื่องบินโดยสารสหรัฐฯ เข้าประเทศจีน โดยหวังว่าทางการจีนจะยอมเปิดน่านฟ้าให้สายการบินจากสหรัฐฯ บินเข้าประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่สายการบินอย่าง Delta และ United ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เปิดน่านฟ้าในช่วงที่ผ่านมา

 

– กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเกาหลีใต้เผยร่างงบประมาณพิเศษ เพื่อเข้าสู่การพิจารณามูลค่ากว่า 2.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ผ่านทางการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์ และส่วนที่เหลืออีก 9.3 พันล้านดอลลาร์ จะได้รับการจัดสรรผ่านการใช้จ่ายด้านการคลังฉบับปรับปรุง

 

– Bloomberg เผยสถิติมีผู้ตกงาน 1 ใน 3 ในสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือ หลังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศจำนวนเงินช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมามีมูลค่า 146,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตํ่ากว่าการคาดการณ์ที่ 214,000 ล้านดอลลาร์ โดยปัญหามาจากการอนุมัติงบประมาณที่ล่าช้า หลังมีผู้ขอรับสิทธิ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การปลดล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้ทางรัฐบาลเลื่อนการพิจารณาเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังหนี้ภาครัฐปรับตัวขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

 

– Amazon เตรียมเปิด 2 โกดังสินค้าในเขต Midwest อีกครั้ง หลังที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการประท้วงเพื่อสิทธิคนผิวสี ซึ่งทำให้เกิดการปะทะของตำรวจและผู้ชุมนุม รวมถึงการขโมยสินค้า จนกระทบต่อโกดังสินค้า เบื้องต้นมีการประเมินว่า รถสำหรับขนส่งสินค้าที่จอดพักไว้นอกโกดังได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าสินค้าต่างๆ ถูกขโมยไปหรือไม่ โดยโกดังสินค้าจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในช่วงกะกลางคืนของวันพุธนี้

 

ภาวะตลาดวานนี้

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาดีขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงความคาดหวังที่ ECB จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจโดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดในวงเงิน 5 แสนล้านยูโร ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

 

– สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ออกมาลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า สต๊อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ลดความกังวลที่ปริมาณน้ำมันจะล้นตลาด หลังมีการลดกำลังการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วๆ นี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากปัจจัยดังกล่าว

 

สหรัฐฯ

– Dow Jones อยู่ที่ 26269.89 เพิ่มขึ้น 527.24 (2.05%)

– S&P 500 อยู่ที่ 3122.87 เพิ่มขึ้น 42.05 (1.36%)

– Nasdaq อยู่ที่ 9682.91 เพิ่มขึ้น 74.54 (0.78%)

 

ยุโรป

– DAX อยู่ที่ 12487.36 เพิ่มขึ้น 466.08 (3.88%)

– FTSE 100 อยู่ที่ 6382.41 เพิ่มขึ้น 162.27 (2.61%)

– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3269.59 เพิ่มขึ้น 110.57 (3.5%)

– FTSE MIB อยู่ที่ 19641.81 เพิ่มขึ้น 670.72 (3.54%)

 

เอเชีย

– Nikkei 225 อยู่ที่ 22613.76 เพิ่มขึ้น 288.15 (1.29%)

– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5941.6 เพิ่มขึ้น 106.5 (1.83%)

– Shanghai อยู่ที่ 2923.37 เพิ่มขึ้น 1.97 (0.07%)

– SZSE Component อยู่ที่ 11108.36 ลดลง -4.14 (-0.04%)

– China A50 อยู่ที่ 13709.7 เพิ่มขึ้น 10.37 (0.08%)

– Hang Seng อยู่ที่ 24325.62 เพิ่มขึ้น 329.68 (1.37%)

– Taiwan Weighted อยู่ที่ 11320.16 เพิ่มขึ้น 192.23 (1.73%)

– SET ปิดทำการ

– KOSPI อยู่ที่ 2147 เพิ่มขึ้น 59.81 (2.87%)

– IDX Composite อยู่ที่ 4941.01 เพิ่มขึ้น 93.5 (1.93%)

– BSE Sensex อยู่ที่ 34109.54 เพิ่มขึ้น 284.01 (0.84%)

– PSEi Composite อยู่ที่ 6245.65 เพิ่มขึ้น 220.48 (3.66%)

 

Commodity

– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 36.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.26 (-0.7%)

– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 39.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.12 (-0.3%)

– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1700.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -27.36 (-1.58%)

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising