ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ขยายตัวมากกว่าคาดหลังเปิดเมือง, หุ้น Tesla พุ่งแรง ดัน Market Cap ชนะ Toyota: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (3 ก.ค. 2563)

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้อังกฤษมีกำหนดประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวมและภาคการบริการประจำเดือนมิถุนายน (PMI) ซึ่งถูกคาดว่าจะออกมาที่ 47.6 และ 47.0 จุดตามลำดับ ทรงตัวที่ระดับเดิมจากเดือนก่อนหน้า และยังอยู่ในแดนหดตัว สะท้อนมุมมองทางธุรกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอังกฤษที่แม้จะชะลอตัว แต่ยังคงมีความเสี่ยงระบาดระลอกสอง ขณะที่ไทยมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ -2.80%YoY หดตัวน้อยลงกว่าครั้งก่อนหน้าที่ -3.44%YoY จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปี 2019 และการชะลอตัวด้านการบริโภคจากมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ว่าบริษัทด้านสื่อจากสหรัฐฯ ทั้ง 4 แห่ง ประกอบไปด้วย สำนักข่าว AP, สำนักข่าว UPI, สถานีโทรทัศน์ CBS และสถานีวิทยุ NPR ต้องดำเนินการยื่นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ปฏิบัติงาน การจัดการการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนต่อทางการจีนภายใน 7 วัน และส่งรายละเอียดการทำงานในประเทศจีน พร้อมทั้งเตือนสหรัฐฯ ว่าควร ‘แก้ไขในสิ่งที่ผิด’ และหยุดคุกคามทางการเมืองและจำกัดการทำงานของสื่อจีนอย่างไม่มีเหตุผล เพื่อตอบโต้กรณีที่สหรัฐฯ กดดันสื่อจีนเช่นเดียวกัน

สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขสำคัญด้านตลาดแรงงาน อันประกอบไปด้วย 1. การจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 4.8 ล้านตำแหน่ง ดีกว่าการคาดการณ์ที่ 3.0 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นการขยายตัว 2 เดือนต่อเนื่องหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง 2. อัตราการว่างงานประจำเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 11.1% ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 12.3% เช่นเดียวกัน 3. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ อยู่ที่ 1.427 ล้านราย แย่กว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.355 ล้านราย แต่ยังคงอยู่ในแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง 14 สัปดาห์

วานนี้หุ้น Tesla ปรับตัวขึ้นแรงต่อกว่า 7.95% หลังเปิดเผยยอดการส่งมอบรถไตรมาสที่ 2/20 ออกมาที่ 90,650 คัน ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชนะแนวโน้มตลาดที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่ากิจการของ Tesla ทะยานขึ้นเหนือ Toyota ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์จากญี่ปุ่น และทำให้นักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์เป้าหมายของราคาหุ้น Tesla ขึ้นสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อหุ้น

วานนี้หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจช่วงเดือน มกราคม-มิถุนายน 2563 ออกมาที่ -69 จุด ลดลงจากระดับ -24 จุดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2528 สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม หอการค้าฯ เชื่อว่าดัชนีดังกล่าวจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ -44 จุด เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากเชื่อว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สองจะรุนแรงน้อยกว่ารอบแรก

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรพุ่งขึ้นที่ระดับ 4.8 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3 ล้านตำแหน่ง บ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้ว สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากตัวเลขอัตราการว่างงานในยุโรปของเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง โดยหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นฟูในเร็วๆ นี้

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัวหลังตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ลดโอกาสที่จะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีก็ตาม แต่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับตัวเลขจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าว

สหรัฐฯ

Dow Jones อยู่ที่ 25,827.36 เพิ่มขึ้น 92.39 (+0.36%)
S&P 500 อยู่ที่ 3,130.01 เพิ่มขึ้น 14.15 (+0.45%)
Nasdaq อยู่ที่ 10,207.63 เพิ่มขึ้น 53 (+0.52%)

ยุโรป

DAX อยู่ที่ 12,608.46 เพิ่มขึ้น 347.89 (+2.84%)
FTSE 100 อยู่ที่ 6,240.36 เพิ่มขึ้น 82.4 (+1.34%)
Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,320.09 เพิ่มขึ้น 91.64 (+2.84%)
FTSE MIB อยู่ที่ 19,886.88 เพิ่มขึ้น 556 (+2.88%)

เอเชีย

Nikkei 225 อยู่ที่ 22,145.96 ลดลง (0%)
S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6,032.7 ลดลง (0%)
Shanghai อยู่ที่ 3,090.19 ลดลง -0.38 (0.01%)
SZSE Component อยู่ที่ 12,269.49 เพิ่มขึ้น 156.52 (+1.29%)
China A50 อยู่ที่ 14,644.58 เพิ่มขึ้น 319.29 (+2.23%)
Hang Seng อยู่ที่ 25,124.19 เพิ่มขึ้น 697 (+2.85%)
Taiwan Weighted อยู่ที่ 11,805.14 ลดลง (0%)
SET อยู่ที่ 1,374.13 เพิ่มขึ้น 24.69 (+1.83%)
KOSPI อยู่ที่ 2,135.37 ลดลง (0%)
IDX Composite อยู่ที่ 4,966.78 เพิ่มขึ้น 52.39 (+1.07%)
BSE Sensex อยู่ที่ 35,843.7 เพิ่มขึ้น 429.25 (+1.21%)
PSEi Composite อยู่ที่ 6,364.08 เพิ่มขึ้น 154.37 (+2.49%)

Commodity

ราคาน้ำมัน Crude Oil WTI อยู่ที่ 40.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.76 (+1.92%)
ราคาน้ำมัน Brent Oil อยู่ที่ 41.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.38 (+0.9%)
ราคาทองคำ Gold อยู่ที่ 1,775.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.48 (+0.43%)

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: