- กระทรวงเกษตรจีนรายงานการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ฟาร์มไก่ในเมืองเซ่าหยาง มณฑลหูหนาน หลังจากไก่ในฟาร์มแห่งนี้ตายจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H5N1 ไปแล้ว 4,500 ตัวจากทั้งหมด 7,850 ตัว ด้านทางการท้องถิ่นจีนได้สั่งฆ่าสัตว์ปีก 17,828 ตัว เพื่อป้องกันการระบาดเป็นวงกว้าง แม้ว่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกจากการระบาดรอบนี้
- ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องวงเงิน 1.2 ล้านล้านหยวน รับมือกับความผันผวนในตลาดหุ้นจีน โดยการเสริมสภาพคล่องวันนี้จะทำผ่านทาง Reverse Repo เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า สภาพคล่องในตลาดมีมากเพียงพอ ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 9 แสนล้านหยวน ขณะเดียวกัน จีนยังเตรียมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโคโรนา ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การสนับสนุนสินเชื่อให้กับภาคการผลิต ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม และการลดค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
- Bank of America ออกรายงานคาดผลกระทบโคโรนาฉุดเศรษฐกิจเฉเชียเป็นวงกว้าง โดยเศรษฐกิจจีนไตรมาส 1 ปี 2563 อาจชะลอลงเหลือ 5.0% และตลอดทั้งปีเติบโตเพียง 5.6% ส่วนปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 5.8% เช่นเดียวกับ Goldman Sachs ที่คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะฉุดเศรษฐกิจจีนถึง 0.4% โดยคาดว่าปี 2563 จะขยายตัวเหลือ 5.5% จากปีก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 5.9% ในรายงานยังระบุถึงผลกระทบที่เกิดกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย เพราะการระงับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนทั้งประเทศ อาจฉุดรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศ และดินแดนต่างๆ เช่น ฮ่องกง ไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่การบริโภคในประเทศของทุกประเทศในเอเชียช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 จะปรับตัวลง โดยเฉพาะในธุรกิจการบริการ
- ธปท. คาด GDP ไทยขยายตัวต่ำกว่า 2.8% จากปัจจัยลบเข้ามากระทบ ได้แก่ 1. การระบาดของไวรัสโคโรนาที่กระทบภาคการท่องเที่ยว การบริโภค และการส่งออกบางส่วน 2. ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ที่มีผลต่อการใช้จ่ายภาครัฐ และการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชน และ 3. ภัยแล้ง โดยกระทบจากไวรัสโคโรนา คาดจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1 ติดลบ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป 1-2 ล้านคนต่อไตรมาส จากโดยเฉลี่ยจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยประมาณ 1 ล้านคนต่อเดือน ส่วนงบประมาณล่าช้า หากไม่สามารถคลี่คลายได้ภายใน 2 เดือน จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ให้ชะลอตัวลงลึกกว่าประมาณการเดิมที่มองไว้ว่าจะขยายตัวได้มากกว่า 2%
- ภาคการผลิตเอเชีย ส่งสัญญาณชะลอตัวครั้งใหม่ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเกาหลีประจำเดือนมกราคมอยู่ที่ 49.8 ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 50.1 ส่วนจีนอยู่ที่ระดับ 51.1 ต่ำกว่าคาดที่ 51.3 และต่ำกว่าครั้งก่อนที่ 51.5 ด้านสหรัฐฯ วันนี้จะประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือนมกราคมจาก ISM โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 48.5 จากเดือนก่อนที่ระดับ 47.2 อย่างไรก็ตามตลอดครึ่งปีหลังของปี 2019 ประกาศตัวเลขต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้เสมอ และยังอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ดัชนี Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวลงแรงจากความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนาที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดีนัก ยิ่งตอกย้ำเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงแรงเช่นกัน จากตัวเลข GDP ของกลุ่มประเทศในยุโรปที่ออกมาแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน และอาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน จากที่ในช่วงสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นมา 0.6% อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาต่อไป
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 28256.03 ลดลง -603.41 (-2.09%)
- S&P 500 ปิดที่ 3225.52 ลดลง -58.14 (-1.77%)
- Nasdaq ปิดที่ 9150.94 ลดลง -148 (-1.59%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 12981.97 ลดลง -175.15 (-1.33%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7286.01 ลดลง -95.95 (-1.3%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3640.91 ลดลง -49.87 (-1.35%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23237.03 ลดลง -544.07 (-2.29%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23205.18 เพิ่มขึ้น 227.43 (0.99%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 7017.2 เพิ่มขึ้น 8.8 (0.13%)
- Shanghai ปิดที่ 2976.53 ลดลง -84.23 (-2.75%)
- SZSE Component ปิดที่ 10681.9 ลดลง 0 (0%)
- China A50 ปิดที่ 13791.36 ลดลง 0 (0%)
- Hang Seng ปิดที่ 26312.63 ลดลง -136.5 (-0.52%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11495.1 เพิ่มขึ้น 73.36 (0.64%)
- SET ปิดที่ 1514.14 ลดลง -9.85 (-0.65%)
- KOSPI ปิดที่ 2119.01 ลดลง -28.99 (-1.35%)
- IDX Composite ปิดที่ 5940.05 ลดลง -117.55 (-1.94%)
- BSE Sensex ปิดที่ 39735.53 ลดลง -987.96 (-2.43%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7200.79 ลดลง -191.89 (-2.6%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 51.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.52 (-1%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 56.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.68 (-1.19%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1588.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.2 (0.33%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
- กรุงเทพธุรกิจ