×

คาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียด, ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ สดใสเหนือคาด, BOJ คงดอกเบี้ยตามคาด ย้ำเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (17 มิ.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
17.06.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีกำหนดแถลงต่อรัฐสภาถึงแนวโน้มนโยบายทางการเงิน และมุมมองต่อเศรษฐกิจเป็นวันที่ 2 ซึ่งนักลงทุนยังคงติดตามท่าทีอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของ Fed ต่อไป นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังมีกำหนดประกาศยอดการขออนุญาตสร้างบ้านประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 1.228 ล้านหลัง กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากที่หดตัว 3 เดือนต่อเนื่อง ในช่วงก่อนหน้าสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ และกดดันกำลังซื้อของชาวอเมริกัน ขณะที่สหภาพยุโรปมีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.1%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.3%YoY สืบเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ในยุโรปช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกดดันการบริโภคทั่วภูมิภาค

 

  • วานนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.10% ต่อไป รวมถึงคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับ 0% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างผลเสียต่อเป้าหมายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ BOJ จำเป็นต้องพิจารณามาตรการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

  • สหรัฐฯ ประกาศยอดค้าปลีกและยอดค้าปลีกพื้นฐานประจำเดือนพฤษภาคม ขยายตัว 17.7%MoM และ 12.4%MoM ตามลำดับ เหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทั้งคู่ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากช่วง 2 เดือนก่อน และขยายตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาบริโภคอีกครั้ง 

 

  • คาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกาหลีเหนือระเบิดสำนักงานติดต่อประสานงานระหว่างสองเกาหลี ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแกซอง ใกล้กับเขตปลอดทหาร ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือยังเตือนว่าจะส่งทหารเข้าไปยึดครองเขตปลอดทหาร เพื่อตอบโต้แผนการของกลุ่มแปรพักตร์ในเกาหลีใต้ที่เตรียมโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อเพื่อโจมตีเกาหลีเหนือ 

 

  • สหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าลงทุนด้านสาธารณูปโภคเพิ่มเติมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 กดดันเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และส่งผลให้มีคนตกงานมากกว่า 21 ล้านคน โดยรายงานข่าวระบุว่ากรมการขนส่งทางบกสหรัฐฯ กำลังทำแผนเพื่อส่งให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป โดยการลงทุนครั้งนี้จะมุ่งไปที่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน รวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายไร้สายเทคโนโลยี 5G ด้วย

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยยอดค้าปลีกสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 17.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8% และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเยอรมนีสะท้อนมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับงบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น โดยหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเร็วๆ นี้

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งลดความกังวลที่จะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ที่เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดย่อมและผู้ที่มีรายได้ต่ำอาจล้มครืนไปได้ง่ายๆ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังออกมาไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยงจากการลงทุน

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 26,289.98 เพิ่มขึ้น 526.82 (+2.04%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3,124.74 เพิ่มขึ้น 58.15 (+1.9%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 9,895.87 เพิ่มขึ้น 169.84 (+1.75%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12,315.66 เพิ่มขึ้น 404.31 (+3.39%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6,242.79 เพิ่มขึ้น 178.09 (+2.94%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,242.65 เพิ่มขึ้น 106.25 (+3.39%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19,625.63 เพิ่มขึ้น 656.34 (+3.46%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 22,582.21 เพิ่มขึ้น 1,051.26 (+4.88%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5,942.3 เพิ่มขึ้น 222.5 (+3.89%)
  • Shanghai อยู่ที่ 2,931.75 เพิ่มขึ้น 41.72 (+1.44%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 11,398.97 เพิ่มขึ้น 206.69 (+1.85%)
  • China A50 อยู่ที่ 13,661.85 เพิ่มขึ้น 189.59 (+1.41%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24,344.09 เพิ่มขึ้น 567.14 (+2.39%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 11,511.64 เพิ่มขึ้น 205.38 (+1.82%)
  • SET อยู่ที่ 1,367.13 เพิ่มขึ้น 25.14 (+1.87%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2,138.05 เพิ่มขึ้น 107.23 (+5.28%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 4,986.46 เพิ่มขึ้น 170.12 (+3.53%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 33,605.22 เพิ่มขึ้น 376.42 (+1.13%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 6,281.75 เพิ่มขึ้น 117.93 (+1.91%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 37.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.45 (+1.21%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 40.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 (+1.15%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1726.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.36 (+0.14%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising