×

“เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว” เสรีพิศุทธ์เปิดโรงทานช่วยชาวบ้าน เชื่อการแก้ปัญหาโควิด-19 คือบทพิสูจน์ฝีมือประยุทธ์

โดย THE STANDARD TEAM
13.04.2020
  • LOADING...

วันนี้ (13 เมษายน) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางไปที่โรงทานวัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ เพื่อเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือเป็นการแบ่งเบาภาระและช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

 

สำหรับโรงทานดังกล่าว พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 และปีนี้เริ่มเข้าสู่ปีที่ 8 แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงไม่ได้จัดงานครบรอบโรงทานเหมือนเช่นทุกปี แต่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ และทีมงานก็ยังจัดเลี้ยงประชาชนเป็นประจำทุกวัน และยิ่งในภาวะที่ผู้คนกำลังยากลำบากเช่นนี้ ก็ยิ่งต้องจัดเลี้ยงอาหารมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวหลังจากรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาทว่า เกิดจากการที่รัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนเป็นรายบุคคล แต่ใช้เกณฑ์เหมารวมเป็นสาขาอาชีพทำให้มีการตกหล่นเป็นจำนวนมาก เช่น ถ้าบอกว่ามีอาชีพช่างรับเหมาก็จะไม่ได้รับเงิน ทั้งที่เป็นเพียงลูกจ้างรายวันและอยู่ในช่วงตกงาน ดังนั้นเกณฑ์การคัดกรองประชาชนที่เดือดร้อนจึงมีปัญหา ยังไม่นับรวมเรื่องความล่าช้าที่จนถึงขณะนี้เพิ่งแจกเงินได้ล้านกว่าคน ทั้งที่มีคนลงทะเบียนไว้กว่า 20 ล้านคน

 

“จากมาตรการป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อไวรัส ได้กลายเป็นการสร้างความอดอยากให้กับประชาชน เพราะมีการสั่งปิดกิจการห้างร้านต่างๆ รวมทั้งการประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งไม่รู้จะจบสิ้นวันไหน ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำคือควรทบทวนวิธีการเยียวยาให้ทั่วถึงและรวดเร็ว หากยังใช้วิธีการที่ไม่ชัดเจนและล่าช้าเช่นนี้ อีกหน่อยก็จะมีคนออกมาขับไล่นายกฯ อีก เพราะท่านไม่ชอบฟังเสียงคนเดือดร้อน แต่น่าจะชอบฟังเจ้าสัวหรือคนใกล้ชิดที่ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจมากกว่า” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยังแสดงความเป็นห่วงถึงการใช้เงินกู้เป็นจำนวนมากในการช่วยเหลือประชาชน เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์คือภาษีของประชาชน ดังนั้นจะต้องไม่มีการทุจริตและจะต้องเปิดกว้างให้มีการตรวจสอบมากกว่านี้ ไม่ใช่พอใครวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ออกมาใช้กฎหมายปิดปากหรือกล่าวหาว่าขัดขวางการแก้ปัญหาไวรัส ทั้งที่หลายฝ่ายออกมาแนะนำในสิ่งที่ดี แต่รัฐบาลก็ไม่เคยฟัง ยังคงใช้แต่วิธีการเดิมๆ ในการแก้ปัญหา 

 

“เข้าใจว่านี่น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ พล.อ. ประยุทธ์ แล้วในการพิสูจน์ฝีมือในฐานะผู้นำประเทศ เพราะหากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาออกมาขับไล่กันทั้งประเทศแล้ว แต่ก็เหมือนยังโชคดีที่มีเรื่องโควิด-19 มาคั่นจังหวะเอาไว้ หากมีอำนาจล้นฟ้าตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เช่นนี้ ท่านยังแก้โควิด-19 กับเศรษฐกิจไม่ได้ ก็ไม่ควรจะอยู่ให้เขาออกมาขับไล่อีก แต่ควรจะพิจารณาตัวเองมากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็คงต้องให้ท่านได้พิสูจน์ฝีมืออีกสักหน่อย” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising