×

วิกฤตพลังงานเดินหน้ากดดันเงินยูโร บททดสอบวัดใจ ECB ขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ

05.09.2022
  • LOADING...

ความเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์นี้หนีไม่พ้นการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าวิกฤตขาดแคลนพลังงานที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัสเซียระงับการส่งก๊าซผ่านท่อส่ง Nord Stream 1 จะกดดันให้ ECB จำใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อไม่ให้ขยับขึ้นไปมากกว่านี้

 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวก็ต้องยอมแลกกับความเสี่ยงของภูมิภาคในการเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายและวัดใจ Christine Lagarde ประธาน ECB ว่าจะตัดสินใจเลือกทางใด โดยนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ECB เพิ่งจะเริ่มไล่ตามสหรัฐฯ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้าประวิงเวลาไม่ยอมขึ้น หรือขึ้นไม่มากพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ ก็ยิ่งทำให้ความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมดของ ECB สูญเปล่าได้

 

ทั้งนี้ สิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองก็คือระดับของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ว่าจะถึงระดับ 0.75% หรือไม่

 

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs นำโดย Kamakshya Trivedi  ปรับลดการคาดการณ์สำหรับเงินยูโรเป็น 97 เซนต์ต่อยูโรในช่วง 3 เดือนข้างหน้า จากเดิมที่ประเมินไว้ 99 เซนต์ต่อยูโร และเชื่อว่าเงินยูโรจะยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเงินดอลลาร์ในช่วงหกเดือนนับจากนี้

 

นอกจากนี้ แม้ว่าบรรดารัฐบาลในกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโรทั้งหลายจะงัดสารพัดมาตรการบริหารจัดการพลังงานช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงได้เป็นอย่างดี แต่มาตรการดังกล่าวก็ไม่อาจหักลบกำจัดความเสี่ยงที่ว่า ยุโรปยังไม่มีแหล่งผลิตและป้อนพลังงานเข้าประเทศแทนรัสเซียได้ ดังนั้น ค่าเงินยูโรและเศรษฐกิจยุโรปโดยรวมจึงยังเป็นโจทย์ยากสำหรับ ECB ต่อไป

 

ด้านสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานคาดการณ์ทิศทางแนวโน้มของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์นี้ ที่นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างเทใจให้กับหุ้นบริษัทน้ำมัน เนื่องจากได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบขยับตัวเพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 20%

 

รายงานระบุว่า กองทุนด้านพลังงานชั้นนำ 2 กองทุน ได้แก่ Energy Select Sector SPDR Fund (XLE) และ iShares U.S. Energy ETF (IYE) ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 45% ขณะที่หุ้น Occidental Petroleum (OXY) บริษัทพลังงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก Berkshire Hathaway (BRKB) ของ Warren Buffett เพิ่มขึ้นเกือบ 140% ในปีนี้ ปัจจุบัน Berkshire เป็นเจ้าของประมาณ 20% ของ Occidental และหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติคำขอ Berkshire เพื่อเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 50%

 

Berkshire ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ใน Chevron (CVX) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปีนี้ และเป็นหุ้นอันดับต้นๆ ใน Dow และหุ้น 10 อันดับแรกของ S&P 500 อยู่ในกลุ่มน้ำมัน รวมถึง Hess (HES), Exxon Mobi (XOM)l และ ConocoPhillips (COP)

 

อย่างไรก็ตามในส่วนของหุ้นเทคโนโลยีกลับวิ่งสวนทางหุ้นพลังงาน โดยมีรายงานว่า Meta บริษัทแม่ของ Facebook, Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Netflix (NFLX) และ Alphabet (GOOGL) เจ้าของ Google ต่างร่วงลงอย่างรวดเร็ว

 

กระนั้น หุ้นเทคโนโลยีก็ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเดียวของตลาดที่กำลังสั่นคลอน เพราะหุ้นหลักส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเข้ามาอยู่ในฝั่งกระดานแดง เช่นเดียวกับหุ้น meme เช่น AMC (AMC), Bed Bath & Beyond (BBBY) และ GameStop (GME) Bitcoin และ cryptos อื่นๆ ก็ร่วงลงเช่นกัน ดังนั้น ในรอบสัปดาห์นี้หุ้นน้ำมันจึงมีความโดดเด่นและน่าจับตามอง

 

ด้านสถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศมาตรการมูลค่า 6.5 หมื่นล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภัยคุกคามจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น หลังรัสเซียระงับการส่งก๊าซผ่านท่อ Nord Stream 1 ซึ่งแพ็กเกจครั้งนี้มีขนาดใหญ่กว่าสองชุดก่อนหน้านี้มาก และครอบคลุมการชำระเงินครั้งเดียวให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด และจะทำการลดหย่อนภาษีให้กับธุรกิจที่ใช้พลังงานมาก

 

อ้างอิง: 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising