เอลซัลวาดอร์สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่รับรองให้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หลังรัฐสภาโหวตผ่านด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น 62 จาก 84 เสียง
นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีหนุ่มของเอลซัลวาดอร์ ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวนี้ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของเขา พร้อมระบุว่า การผ่านกฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างงานและเพิ่มอัตราการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศ
ก่อนหน้านี้ บูเคเล วัย 39 ปี ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า บิทคอยน์จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการเงินของประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงช่วยให้การโอนเงินกลับบ้านของชาวซัลวาดอเลียนที่อยู่นอกประเทศ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีทำได้รวดเร็วขึ้น
ดักกลาส โรดริเกรซ ประธานธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาบิทคอยน์ได้ถูกใช้ทำธุรกรรมในประเทศอยู่แล้วและมันไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องกลัว โดยเขากล่าวด้วยว่าบิทคอยน์จะไม่เข้ามาแทนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่เอลซัลวาดอร์ใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่จะอยู่ในรูปแบบของสกุลเงินทางเลือก
มีการเปิดเผยเบื้องต้นว่า การผ่านกฎหมายให้ใช้บิทคอยน์ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ค้าสามารถตั้งราคาสินค้าเป็นบิตคอยน์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาชำระภาษีได้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์จะไม่ถูกเก็บภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน
เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดีที่เกิดขึ้นกับบิทคอยน์ในระยะหลังมานี้ เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าของบิทคอยน์ได้ลดลงมาราว 50% หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 บิทคอยน์ในช่วงกลางเดือนเมษายน
สำหรับมูลค่าของบิทคอยน์ที่ร่วงลงมาในช่วงหลังนี้ เกิดจากการพยายามเข้ามาควบคุมเงินสกุลดิจิทัลของประเทศต่างๆ เช่น ในจีนที่มีประกาศห้ามธนาคารทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ รวมถึงการปราบปรามเหมืองขุดหลายแห่ง
นอกจากนี้ การทวีตวิพากษ์วิจารณ์บิทคอยน์ว่ามีส่วนทำให้โลกร้อนของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ก็ทำให้เกิดแรงเทขายบิทคอยน์เช่นกัน
อย่างไรก็ดี บรรดาสาวกที่ยังคงภักดีต่อบิทคอยน์ยังคงเชื่อว่าภาวะขาลงนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว โดยมองว่าบิทคอยน์มีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าของบิทคอยน์ลดลงไปประมาณ 7% โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 34,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 บิทคอยน์ ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Oanda Corp, Evercore ISI และ Tallbacken Capital Advisors ประเมินว่า มีโอกาสที่มูลค่าอาจจะลดลงไปแตะระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐในเร็วๆ นี้ จากความกังวลต่อการออกมาตรการควบคุมของสหรัฐฯ โดยมองว่าหากมูลค่าบิทคอยน์ต่ำลงทะลุระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะเกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ ทำให้มีโอกาสที่มูลค่าอาจจะลดลงไปสู่ระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ในที่สุด
อ้างอิง: