×

เอลนีโญเริ่มกระทบตลาดข้าวทั่วเอเชีย กระตุ้นเงินเฟ้อในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียพุ่ง

11.10.2023
  • LOADING...
ตลาดข้าว เอเชีย

ปรากฏการณ์เอลนีโญได้เริ่มสร้างความกังวลให้แก่ตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะตลาดข้าวที่กำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งแรกจากเอลนีโญ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดด้านการส่งออกในอินเดีย

 

สภาพอากาศที่แห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญได้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น หากเกิดการสูญเสียการผลิตใดๆ ก็ตาม นั่นจะส่งผลให้อุปทานทั่วโลกตึงตัวยิ่งขึ้น และอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ราคาพุ่งขึ้นใหม่อีกครั้ง แม้ว่าเพิ่งจะลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปีเมื่อเร็วๆ นี้ก็ตาม 

 

นานาประเทศในเอเชียต่างเฝ้าระวังผลกระทบจากเอลนีโญ อินโดนีเซียส่งสัญญาณว่าผลผลิตกำลังได้รับผลกระทบเล็กน้อย ในขณะที่เวียดนามสั่งเกษตรกรให้ปลูกพืชชนิดต่อไปเร็วกว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนน้ำ และฟิลิปปินส์ประกาศให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่กำลังรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในยามที่อัตราเงินเฟ้อของข้าวพุ่งสูงขึ้น

 

ความกังวลด้านสภาพอากาศที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดข้าวเป็นสัญญาณแรกของความกังวลที่แท้จริงของผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยปรากฏการณ์ทางภูมิอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้พืชผลได้รับความเสียหาย โครงข่ายไฟฟ้าอาจขัดข้อง ส่งผลกระทบต่อการประมง และการเข้าถึงเหมืองได้ยาก เนื่องจากเกิดปัญหาน้ำท่วมทั้งในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาตลอดจนถึงอเมริกาใต้

 

Muhamad Shakirin Mispan รองศาสตราจารย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยมาลายา กล่าวว่า พืชผลหลายชนิด โดยเฉพาะพืชที่ต้องพึ่งพาน้ำเป็นอย่างมาก จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และผลผลิตที่ลดลงจากผู้ผลิตหลักจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุปทานข้าวทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลแค่ในอาเซียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลกด้วย

 

ตลาดข้าวเผชิญกับความวุ่นวายมาหลายสัปดาห์ หลังจากที่อินเดียได้เพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้แก่รัฐบาลต่างๆ ของประเทศในเอเชียและแอฟริกา ซึ่งกระตุ้นให้เกิดคำเตือนถึงการกักตุน และกระตุ้นให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

 

นอกจากนี้ ผลกระทบจากเอลนีโญอาจนำไปสู่ภัยแล้งและไฟป่าได้ อินโดนีเซียวางแผนนำเข้าธัญพืชเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้า และกล่าวว่าผลผลิตในปีนี้อาจลดลง 1.2 ล้านตัน คาดว่าการผลิตข้าวเปลือกจะอยู่ที่ 54.5 ล้านตัน ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย 

 

ขณะที่เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ได้สั่งให้เกษตรกรในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเริ่มปลูกตั้งแต่ต้นเดือนนี้แทนที่จะเป็นเดือนพฤศจิกายน และมีคำสั่งให้ประหยัดน้ำเมื่อสิ้นสุดการเก็บเกี่ยว ส่วนหนึ่งเพื่อรับมือความแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising