Dow Jones เมื่อวานนี้ (24 พฤศจิกายน) ปิดการซื้อขายเหนือระดับ 30,000 จุด เป็นครั้งแรก ท่ามกลางข่าวดีเรื่องวัคซีนที่สร้างความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 ทั้งกระแสทางการเมืองที่เริ่มผ่อนคลายหลังจากท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่น่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ไรอัน เดทริก หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ LPL Financial ให้ความคิดเห็นว่า “นี่เป็นอีกหนึ่งข้อเตือนใจว่าหุ้นและเศรษฐกิจมาไกลเพียงใดนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และแม้ว่า 30,000 จะไม่ต่างจาก 29,999 มากนัก แต่ก็เป็นการปรับเพิ่มขึ้นที่มีนัยสำคัญ”
ในขณะเดียวกัน S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 3,635.41 จุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 12,036.79 จุด Russell 2,000 จุด ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.9% ปิดการซื้อขายที่ 1,853.53 จุด
ภาพรวมเดือนพฤศจิกายนนี้ Dow Jones ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 13% ซึ่งเป็นเดือนที่ดัชนีปรับเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ส่วน S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 11.2% และ 10.3% ตามลำดับ สร้างสถิติการปรับขึ้นรายเดือนที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยในเดือนนี้หุ้นมูลค่า (Value Stock) ถูกเข้าซื้ออย่างมาก เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นเชิงบวกมากขึ้น ทำให้ความคาดหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็ว
AstraZeneca กล่าวว่าการวิเคราะห์ประสิทธิภาพวัคซีนเมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพเฉลี่ย 70% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Pfizer และ BioNTech ได้โพสต์ข้อมูลวัคซีนที่แข็งแกร่งพร้อมกับ Moderna
อีกทั้งเมื่อวานนี้ (24 พฤศจิกายน) ยังได้รับแรงหนุนจากความชัดเจนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ เอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ (General Services Administration: GSA) ระบุว่าฝ่ายบริหารของทรัมป์เริ่มเคลียร์พื้นที่ของรัฐบาลกลางให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานาธิบดี
หุ้นเอเชียเปิดบวกรับความเชื่อมั่นไบเดนเพิ่ม
ตลาดหุ้นในเอเชียต่างเปิดการซื้อขายในแดนบวก สะท้อนความเชื่อมั่นในตัวผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ และความมั่นใจในเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งน่าจะพร้อมใช้งานในไม่ช้า
ในขณะที่นักลงทุนมองไปที่ปี 2021 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความคิดเห็นว่าพวกเขากำลังเดิมพันว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการได้รับวัคซีนจะช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในการเดินทางต่างๆ ซึ่งจะสะท้อนไปถึงการฟื้นตัวของกลุ่มการบิน ท่องเที่ยว รวมถึงการกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พฤศจิกายน) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งความราบรื่นในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคมร่วงลง 33.2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.81% ปิดที่ 1,804.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้มอบหมายให้ เอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่คณะบริหารของ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งทำให้ไบเดนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เพื่อเปิดทางให้เขาสามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
