เรียกว่าเป็นบริการสตรีมมิงที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นผู้เข้าแข่งขันคนสำคัญของตลาดสื่อ Video on Demand (VOD) ด้วยสำหรับ Disney+ ที่นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2019 ปัจจุบันมีผู้ยอมจ่ายเงินสมัครใช้งานมากถึง 73.7 ล้านคนแล้ว
โดยการที่ Disney+ มีผู้ใช้งานมากขนาดนี้ภายในเวลาเพียง 1 ปี ถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของดิสนีย์พอสมควร เพราะแรกเริ่มเดิมทีนั้นพวกเขาเคยคาดการณ์ไว้ว่า ตัวสตรีมมิงจะมีผู้สมัครใช้งานราวๆ 60-90 ล้านคนภายในปี 2024 แต่ปรากฏว่าดันทะลุเป้าหมายขั้นต่ำคือ มีผู้สมัครใช้งานถึง 60 ล้านคนในเวลาเพียง 9 เดือนแรกเท่านั้น ซึ่ง บ๊อบ ชาเพ็ก ซีอีโอของดิสนีย์ กล่าวว่า มันเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนให้ยอมจ่ายเงินสมัครใช้บริการ Disney+ ก็คือ การที่ดิสนีย์นำภาพยนตร์รวมถึงแอนิเมชันเรื่องดังหลายเรื่องของตัวเองมาลงฉาย
ทั้งภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากสตูดิโอมาร์เวล, ภาพยนตร์ชุด Star Wars รวมถึงผลงานที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์อีกมากมายซึ่งหาชมได้เฉพาะใน Disney+ อย่างเดียวเท่านั้น เช่น ซีรีส์ The Mandalorian (2019-ปัจจุบัน), Obi-Wan Kenobi (2021), The Falcon and The Winter Soldier (2021), WandaVision (2021), Loki (2021) เป็นต้น
ปัจจุบัน Disney+ เปิดให้สมัครสมาชิกในราคา 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 210 บาท และเปิดให้บริการมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา และล่าสุดกำลังจะเปิดให้บริการในโซนลาตินอเมริกาหลายประเทศภายในเดือนนี้ ส่วนประเทศไทยบ้านเรายังคงต้องรอกันไปก่อน
ภาพ: AaronP / Bauer-Griffin / GC Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: