×

ประมวลภัยพิบัติจากความวิปริตแปรปรวนของสภาพอากาศโลก ปี 2023

โดย Mr.Vop
28.12.2023
  • LOADING...

ปี 2023 กลายเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของภัยพิบัติ​ที่เกี่ยวเนื่อง​กับสภาวะ​โลก​ร้อน​ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิต​ทั่วโลกที่มากขึ้นกว่าปี 2022 ถึง 30% หรือกว่า 12,000 คน

 

ยอดผู้เสียชีวิต​ที่พุ่งสูงในปีนี้ หลักๆ มาจากเมืองเดอร์​นาของลิเบียที่ต้องพบกับหายนะจากเขื่อนแตกจากอิทธิพล​ของพายุแดเนียลที่ปรากฏขึ้นแบบไม่คาดคิดในเดือนกันยายน พายุลูกนี้เป็นเฮอริเคนนอกสารบบที่ก่อตัวขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นชนิดพายุที่ไม่ได้พบเห็นได้ทั่วไป ​จนต้องตั้งชื่อชนิดพายุให้ใหม่ว่า ‘เมดิเคน’ (Medicane)​

 

สภาพอากาศ​โลกที่ก้าวเข้าสู่สภาวะ​เอลนีโญ​ยังผลักดันให้ปี 2023 กลายเป็นปีที่อุณหภูมิ​เฉลี่ย​ของโลก​พุ่ง​สูง​จนทำลายสถิติ​ในเดือนพฤศจิกา​ยน และด้วยความร้อนของน้ำทะเลนี้เองที่มีงานวิจัย​พบว่า ระดับความรุนแรง​ของพายุหมุน​เขตร้อน​ในมหาสมุทร​แอตแลนติก​เพิ่มสู​งขึ้น​ 28.7% เมื่อเทียบกับพายุในยุคก่อนโลกร้อน (ปี 1971-1990) พายุหมุนทวีความเร็ว​ลม​ใกล้​ศูนย์กลางเร็ว​ขึ้น 20 นอต​ และอาจถึง 50 นอต​ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง​ เทียบกับที่ต้องใช้เวลาถึง 36 ชั่วโมง​ในยุคก่อน

 

 

สิ่งที่เกิดในปี 2023 คือพายุโซนร้อน​ ‘โอทิส’ ในเดือน​ตุลาคม​ ที่ทำลายสถิติ​พายุหมุนทั่ว​ไป โดยการทวีกำลัง​จนกลายเป็นซูเปอ​ร์เฮอริเคน​ความเร็ว​ลม​ใกล้​ศูนย์กลาง​พายุ​​กว่า 145 นอต​ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง เข้าถล่มรัฐอากาปุลโกของเม็กซิโกจนมีผู้เสียชีวิต​หลายสิบคน 

 

โอทิสยังถือเป็นพายุหมุน​เขตร้อน​ระดับ 5 ตามมาตรา​เฮอริเคน​แซฟเฟอร์-​ซิมป์สันจากฝั่ง​แปซิฟิก​ลูกแรกในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นฝั่ง​ทวีปอเมริกา​เหนือ​ด้วย

 

นอกจากพายุหมุน​เขตร้อน​ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว​ พายุหมุน​ยังมีอายุยืนยาวผิดปกติ​ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์​ได้ปรากฏ​การก่อตัวของไซโคลน​ ‘เฟรดดี​’ ทางตะวันออกเฉียงใต้​ของทวีป​แอฟริกา​ ที่สุดท้ายแล้วกลายเป็น​พายุหมุน​เขตร้อน​ที่มีอายุยืนยาว​ที่สุดในประวัติศาสตร์​ นั่นคือนานถึง 36 วัน ลากยาวมาถึงกลางเดือนมีนาคม​เลยทีเดียว​ และแน่นอน​ว่าก่อความเสียหาย​มากมายกับกลุ่มประเทศบริเวณ​ที่เส้นทางพายุลูกนี้เคลื่อนผ่าน ตั้งแต่มาดากัสการ์​ โมซัมบิก ซิมบับเว​ และมาลาวี จนมีผู้เสียชีวิต​เกือบ 1,500 คน

 

ความผันผวนของสภาพอากาศ​โลกที่เปลี่ยนแปลง​ไปยังก่อให้เกิดภัยพิบัติ​ในรูปแบบต่างๆ ที่รุนแรง​ขึ้นชนิดที่แทบไม่เคยพบเห็น​มาก่อน ยกตัวอย่าง​เช่น ไฟป่าฮาวายในเดือนสิงหาคม​ ที่ถือเป็น​ไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุด ทำลายสถิติ​ในรอบกว่า 100 ปีของสหรัฐ​อเมริกา ชนิดที่เมืองลาไฮนาบนเกาะเมาวีถูกเผาวอดเกือบทั้งเมือง ​

 

ประเทศ​โซมาเลียและเคนยาต้องพบกับการพลิก​กลับด้านของสภาพ​อากาศ​ จากความแห้งแล้งยาวนานติดต่อ​กันหลายปีที่เป็นภาวะ​ปกติ​ของประเทศ​แถบทะเล​ทราย กลับกลายเป็นการถูกฝนถล่มอย่างไม่ลืมหูลืมตา​ในเดือนพฤศจิกา​ยน จนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนจากน้ำท่วมครั้งใหญ่​ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ​

 

การทำลายสถิติ​ยังเกิดขึ้นไม่หยุด กรุงปักกิ่ง​ของจีนต้องพบกับคลื่นความเย็นปกคลุมจนอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา ยาวนานกว่า 300 ชั่วโมง​ ตั้งแต่วันที่ 11-24 ธันวาคม ถือเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบ 72 ปี​

 

ประเทศ​ไทยเราก็ไม่รอดจากภัยพิบัติ​ที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพ​อากาศ​ ด้วยการถูกหย่อมความ​กดอากาศต่ำ​หลัง​การสลายตัว​ (Remnants)​ ของ​​ดีเปรสชัน​เจอลาวัตผสมกับมรสุม​ตะวันออกเฉียงเหนือ​ เข้าปกคลุมในวันคริสต์มาส​จนเกิดฝนหนักสุดขีดในรอบ 68 ปี นั่นคือ 651 มม. จนเกิดน้ำท่วมหนักอย่างไม่เคยพบมาก่อน

 

ทั้งหมดนี้คือบางส่วนของผลที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลง​ของสภาพ​ภูมิอากาศ​ ที่เวลานี้ได้แสดงความชัดเจนให้เราเห็นแล้ว แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบทเริ่มต้นเท่านั้น ตราบใดที่เรายังลดอุณหภูมิ​เฉลี่ย​ของโลกลงต่ำกว่า 1.5 องศา​เซลเซียส​ไม่ได้ อนาคตของโลกใบนี้ก็ยังคงต้องพบกับสิ่งที่เลวร้ายอย่างไม่คาดคิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​

 

ภาพ: Dr.Rick Knabb​, Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising