ผู้เขียนตั้งใจเขียนหน้าบรรณาธิการในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งครบรอบ 1 ปี การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยเหตุผลหลักคือ เพื่อจะได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเองอีกครั้งว่า 1 ปีที่ผ่านมาเราเคยเป็นอย่างไร และวันนี้เราได้เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน
เศร้า ซึม นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่การยอมรับความจริงนั้นน่าจะมากขึ้นกว่าเดิม เพราะอย่างไรเสีย วันเดือนปีก็จะเคลื่อนผ่านเราไป อะไรเกิดขึ้นแล้ว จบไปแล้ว ก็ยากที่จะย้อนคืนมา ไม่ว่าเราจะอยากให้วันเวลาที่ดีย้อนคืนมาแทบขาดใจมากเพียงใดก็ตาม
การหักห้ามความเศร้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ที่มีหัวใจ มีความรู้สึก ว่ากันตามความจริงแล้ว แต่ละนาทีที่ความเศร้าผุดโผล่ขึ้นมา มันรวดเร็วเกินกว่าจะหักห้ามได้ด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกที เราก็เศร้าไปแล้ว และบางครั้งก็น้ำตารินไปแล้ว เพียงแค่นึกถึงภาพบางภาพขึ้นมา
และภาพบางภาพ เราก็ไม่ได้อยากจะนึกถึง กระทั่งอยากจะยืดเวลาให้เกิดขึ้นช้าลงกว่านี้ โดยเฉพาะภาพที่จะเกิดขึ้นในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่กำลังใกล้เข้ามา อันเปรียบเสมือนวันแห่งการส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ท่ามกลางพระราชพิธีที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมแรงร่วมใจจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
ระหว่างที่พวกเราทีมงานรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของพระราชพิธีสำคัญดังกล่าวนี้ มีหลายครั้งที่ผู้เขียนได้แต่รู้สึกอัศจรรย์ใจกับความงดงามของศิลปะไทย ชื่นชมความสามารถในเชิงช่างแทบทุกแขนงที่มีส่วนในการก่อร่างสร้างส่วนประกอบต่างๆ ในพระราชพิธี ภาพความยิ่งใหญ่ที่จะปรากฏขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ล้วนเกิดจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งกำลังกายกำลังใจของคนจำนวนมหาศาล ที่พูดตรงกันแทบทุกคนว่า พวกเขาตั้งใจทำงานนี้กันอย่างสุดฝีมือ สุดหัวใจ เพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งสุดท้าย
นายช่างผู้ร่างแบบพระเมรุมาศบอกว่า แม้จะภูมิใจที่แบบร่างพระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอด ของตนได้รับเลือกให้นำไปสร้างเป็นพระเมรุมาศ แต่ลึกๆ คงไม่มีใครอยากให้ภาพนั้นเกิดขึ้นจริง เพราะนั่นหมายถึงความจริงที่ยากจะยอมรับ กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
เรายังเชื่อว่า การหักห้ามความเศร้าไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย แต่…
อย่างช้าๆ… คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องราวที่เราตั้งใจรวบรวมมาให้
อย่างมีสติ… คือสิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนพร้อมสำหรับความจริงตรงหน้า
อย่างอดทน… คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนผ่านวันคืนอันหม่นเศร้าไปด้วยกัน
และเราเชื่อว่าคนไทยทุกคนจะอยู่กับวันนั้น… อย่างไม่มีวันลืม