×

Cryptomind เดินหน้ากลยุทธ์รับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีขาขึ้น พร้อมระดมทุน Serie-A ได้เงินกว่า 120 ล้านบาท ใช้ต่อยอดธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

12.03.2024
  • LOADING...

คริปโตมายด์ชูกลยุทธ์ ‘3Cs’ เดินหน้าธุรกิจรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเข้าภาวะ Bull Run ล่าสุดระดมทุน Serie-A ได้กว่า 120 ล้านบาทจาก Beacon Venture Capital ใช้ต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

 

อัครเดช เดี่ยวพานิช ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Cryptomind Group เปิดเผยว่า แม้ว่าอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีจะประสบกับภาวะตลาดหมีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเชิงลบต่อหลากหลายบริษัท แต่ Cryptomind ยังมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ของตลาด โดยในช่วงภาวะตลาดหมีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นการวิจัย การพัฒนา และการทดลองแนวคิดทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อให้พร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการสร้างผลกำไรครั้งใหญ่ในภาวะตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเป็นขาขึ้นครั้งต่อไปในปี 2024 หรือภาวะสู่ภาวะตลาด Bull Run 

 

สำหรับในปีนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ 3Cs ได้แก่ 

 

  1. Community (ชุมชน) คือรากฐานที่บริษัทวางในฐานะผู้นำตลาดมาตั้งแต่ก่อตั้ง ส่งเสริมชุมชนสินทรัพย์ดิจิทัล สร้างความตื่นรู้และมอบความรู้ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงโลกสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยผ่านงาน ‘Blockchain Thailand Genesis’ สู่ ‘Thailand Blockchain Week’ 

 

  1. Contribution (การมีส่วนร่วม) นำเสนอบทวิเคราะห์เชิงลึกครอบคลุมทุกแง่มุมทั้งด้านโปรดักต์, โทเคน, การระดมทุน และการตลาด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง พร้อมทั้งช่วยออกแบบและให้คำปรึกษา เพื่อให้ Web3 Founders สามารถปั้น Unicorn ได้สำเร็จ พิสูจน์ได้จากโปรเจกต์ต่างๆ ที่บริษัทให้คำและแนะนำดูแล ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ 
     

    ทั้งนี้ ในโลกที่เทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีเทรนด์ใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอ Cryptomind จึงถือเป็นส่วนที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับโปรเจกต์ต่างๆ ในการก้าวไปสู่ระดับโลก และสร้างผลตอบแทนจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีได้

 

  1. Confidence (ความมั่นใจ) คือแนวทางของบริษัทในการนำโอกาสด้าน Web3 ไปสู่ผู้คนในวงกว้างมากขึ้นผ่านธุรกิจของบริษัทในฐานะสถาบันการเงิน บริการให้คำปรึกษาและการจัดการสินทรัพย์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับสถาบันให้กับนักลงทุนที่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาต ประกอบธุรกิจ ‘ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล’ (Digital Asset Fund Manager) รายแรกภายใต้การกำกับและดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยบริษัทวางเป้าหมายที่จะสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืนภายในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี โดยโมเดลธุรกิจของบริษัทถูกวางโครงสร้าง 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่เน้นการเติบโต กลุ่มธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มั่นคง และคลังสินทรัพย์

 

ระดมทุน Serie-A ได้เงินกว่า 120 ล้านบาท 

 

สัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ภายในเวลา 3-5 ปี Cryptomind Group จะก้าวขึ้นสู่การเป็นดัชนีมูลค่าของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ธุรกิจของเราไม่ได้เพียงตั้งอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสร้างกำไรจากภาวะตลาดขาขึ้นและสร้างรายได้ที่มั่นคงเท่านั้น แต่ยังได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนอันแข็งแกร่งและโอกาสที่หาได้ยากจากตลาดเงินทุนที่เกิดจากเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต

 

ล่าสุดทางบริษัทสามารถระดมทุน Serie-A ได้กว่า 120 ล้านบาทจาก Beacon Venture Capital บริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย รวมทั้ง Aviary Asia Capital และ HashKey โดยมีแผนจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมั่นคงต่อไป 

 

สำหรับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยและตลาดโลกมีความเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้ง เราเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะข้ามพรมแดนทางการเงิน ช่วยให้ประเทศไทยเติบโตบนเวทีโลก เราเห็นภาพสตาร์ทอัพไทยสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลก ในขณะเดียวกันโปรเจกต์ต่างประเทศก็เริ่มให้ความสนใจกับชุมชนไทยมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพนักลงทุนไทย โดยเปิดโอกาสให้เข้าถึงนวัตกรรมระดับโลกผ่านโทเคน ซึ่งเป็นโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน 

 

Cryptomind ในฐานะบริษัทไทยที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อคว้าโอกาสในตลาดโลก รวมไปถึงเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่น โดยมีแนวคิดคือ การให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลไทยและต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อตลาดพัฒนาขึ้น บริษัทเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางใหม่สำหรับผู้ใช้ นักลงทุน และนักพัฒนาจากทั่วโลก

 

 

เตือนลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีด้วยความระวัง

 

พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในแง่ของมูลค่าตลาดและจำนวนผู้ใช้งาน สถาบันการเงินเริ่มให้ความสนใจและลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดย Bitcoin ยังคงเป็นเหรียญหลักที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะสิน ทรัพย์สำรองอย่าง Ethereum เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย Ethereum 2.0 กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ DeFi บน Ethereum ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และ Altcoins มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีโปรเจกต์บล็อกเชนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย 

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซียังมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง และควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ

 

ขณะที่ พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด หรือ Merkle Capital กล่าวว่า Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจและผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

 

ในปีนี้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ถือเป็นปีที่ดีในการแบ่งสัดส่วนมาลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี แต่การที่จะประสบความสำเร็จในตลาดที่ผันผวนนี้นั้น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทเข้าใจดีถึงความท้าทายเหล่านี้ และพร้อมที่จะช่วยให้นักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงินด้วยบริการจัดการกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุม

 

Merkle Capital มีทีมผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกรูปแบบ 

 

หมายเหตุ: คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน และสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising