×

ความเสียหายจากการแฮ็กบนโลกคริปโตลดลง 23% แต่ยังสูงถึง 321 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกปีนี้

01.04.2024
  • LOADING...
คริปโต

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 มีนาคม) Immunefi บริษัทด้านความปลอดภัยบน คริปโต ออกรายงานล่าสุดเผยว่า ยอดการแฮ็กของคริปโตในไตรมาส 1 ของปี 2024 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 23% 

 

ในรายงานชี้ว่าในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ความเสียหายบนโลกคริปโตเกิดขึ้นจากการแฮ็ก 46 ครั้ง คิดเป็นมูลค่า 321 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 95.6% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด และอีก 15 เหตุการณ์ที่เข้าข่ายการหลอกลวง มูลค่า 14.7 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของมูลค่าทั้งหมด 

 

ซึ่งยอดอาชญากรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนคริปโตในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานี้ อยู่ที่ราว 336 ล้านดอลลาร์ ราว 11,760 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ราว 437 ล้านดอลลาร์ ราว 15,000 ล้านบาท โดยการแฮ็กเหล่านี้ที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชนของ Ethereum มากที่สุด มากถึง 33 เหตุการณ์ ตามมาด้วย BNB ที่เกิดขึ้น 12 เหตุการณ์ 

 

ปัจจุบันมูลค่าเงินฝาก (Value Locked) บนแพลตฟอร์ม DeFi (Decentralized Finance) ต่างๆ รวมกันคิดเป็นกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6 ล้านล้านบาท ทำให้แพลตฟอร์มต่างๆ ของ DeFi ตกเป็นเป้าของการก่ออาชญากรรมมากกว่าแพลตฟอร์มที่เป็น CeFi (Centralized Finance) ซึ่งไตรมาสแรกที่ผ่านไม่ได้รับความเสียหายจากการแฮ็กเกิดขึ้นเลย 

 

Orbit Bridge Protocol เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่เกิดความเสียหายมากที่สุดอันดับหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าราว 81.7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,800 ล้านบาท และ Munchables เป็นแพลตฟอร์มที่เกิดความเสียหายเป็นอันดับที่สอง คิดเป็นมูลค่าราว 62 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,170 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการแฮ็กบนแพลตฟอร์ม Munchables สามารถกู้คืนได้ภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา

 

ทั้งนี้ จำนวนเงินที่สามารถกู้คืนได้ (Recovered Fund) ทั้งหมดในไตรมาสแรกอยู่ที่ 73.9 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22% ของเงินที่ถูกแฮ็กทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามทาง Mitchell Amador ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Immunefi ได้กล่าวว่า ความเปราะบางหรือจุดอ่อนของแพลตฟอร์มบน DeFi เหล่านี้ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงกุญแจส่วนตัว (Private Key) เป็นสิ่งที่บรรดานักพัฒนาของแพลตฟอร์มต้องเร่งสร้างโครงสร้างความปลอดภัยใหม่และแนวทางการป้องกันอย่างเร่งด่วน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising