เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้ทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ซึ่งคาดว่าจะประกาศวันที่ 13 สิงหาคม 2563 โดย CPF ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะผลิตภัณฑ์ได้ 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจเลี้ยงสัตว์แปรรูป และธุรกิจอาหาร นอกจากนี้ CPF ยังเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในหุ้นกลุ่มอาหาร (SETFOOD) และมีมาร์เก็ตแคปใหญ่อันดับที่ 9 ของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กระทบอย่างไร:
นับตั้งแต่ไตรมาส 2/63 จนถึงวันนี้ (15 กรกฎาคม) ราคาหุ้น CPF เพิ่มขึ้น 41.98% สู่ระดับ 34.50 บาท ซึ่งในวันนี้ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี 4 เดือน (นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556) ที่ระดับ 34.75 บาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาหมูในประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมถึงได้แรงหนุนความคาดหวังต่อทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 2563 หลังจากที่รัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่า CPF จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 จำนวน 6.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 51%YoY และเพิ่มขึ้น 31%QoQ โดยมีผลขาดทุนพิเศษจำนวน 1 พันล้านบาทจากสินทรัพย์ชีวภาพ หากตัดรายการพิเศษนี้ออก SCBS คาดว่า CPF จะมีไรปกติไตรมาส 2/63 ที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%YoY แต่ลดลง 19%QoQ โดยกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น YoY ได้รับการสนับสนุนจากราคาหมูในเวียดนามไตรมาส 2/63 ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 108%YoY สู่ระดับ 74,360 เวียดนามดองต่อกิโลกรัม เนื่องจากฐานต่ำในปีก่อน และอุปทานที่ลดลงจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) แต่ขณะที่ราคาหมูและราคาไก่ในประเทศไตรมาส 2/63 ลดลง 6%YoY และ 12%YoY เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับธุรกิจในประเทศอื่นๆ SCBS คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของธุรกิจหมูในประเทศลาว กัมพูชา และรัสเซีย จะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากราคาหมูในทุกประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กิจการในจีนสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติแล้ว สำหรับธุรกิจไก่ในอินเดียอาจได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/63 จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องจากไตรมาส 2/63 โดย SCBS คาดว่ากำไรปกติของ CPF จะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากราคาหมูในเวียดนามไตรมาส 3/63TD ยังเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดต่อเนื่องสู่ระดับ 8-9 หมื่นเวียดนามดองต่อกิโลกรัม เนื่องจากอุปทานที่ยังขาดแคลนเพราะโรค ASF ที่ยังคงระบาดในตอนเหนือของเวียดนาม โดยมุมมองของ CPF คาดว่าราคาหมูในเวียดนามจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่อุปทานจะฟื้นตัวกลับมา และยังมีต้นทุนการลงทุนที่สูงขึ้นเพื่อป้องกันการระบาดโรค ASF
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือการระบาดของโรค ASF ที่มีโอกาสลุกลามเข้ามายังประเทศไทย รวมถึงทิศทางราคาผลิตภัณฑ์และต้นทุนอาหาร
ข้อมูลเพิ่มเติม:
บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีสัดส่วนรายได้ไตรมาส 1/63 จากประเทศไทย 32%, จีน 25%, เวียดนาม 19% และประเทศอื่นๆ 24% แต่หากจำแนกตามลักษณะธุรกิจจะพบว่า CPF มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสัตว์เลี้ยงแปรรูปมากที่สุดคิดเป็น 47% ตามด้วยธุรกิจอาหารสัตว์ 36% และธุรกิจอาหาร 17%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
