×

เครือ CP ออกโรงช่วยเกษตรกรเปิด ‘ร้านขายทุเรียน’ กว่า 500 จุด หน้าห้าง Lotus’s, Lotus’s go fresh, CP Fresh Mart และ 7-Eleven ทั่วประเทศ

23.04.2022
  • LOADING...
ร้านขายทุเรียน

‘ทุเรียนไทย’ คือหนึ่งในผลไม้ส่งออกสำคัญ โดยเฉพาะจีนเป็นประเทศผู้บริโภคทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก หรือคิดเป็น 70% ของตลาดโลก ซึ่งเมื่อรวมตลาดฮ่องกงที่มีส่วนแบ่งเกือบ 20% ทำให้จีนครองตลาดทุเรียนไปเกือบทั้งหมด ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศส่งออกทุเรียนรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ทั้งด้านปริมาณและมูลค่า

 

ทว่าปี 2565 ซึ่งทุเรียนมีแนวโน้มที่จะมีผลผลิตมากกว่าปกติ แต่ในทางกลับกัน การส่งออกไปยังแดนมังกรกลับยากขึ้นเพราะนโยบาย Zero Covid ของรัฐบาลจีน ทำให้เกิดความเข้มงวดจนอาจส่งผลทำให้การส่งออกติดขัดหรือส่งออกได้น้อยลง

 

เครือ CP จึงได้ออกโรงมาช่วยเกษตรกรด้วยการทำโครงการ Let’s DO RIAN โดยการจัดทำร้านขายทุเรียนจำนวนกว่า 500 จุด ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านค้าปลีกค้าส่งในเครือ CP ทั่วประเทศ ได้แก่ ห้าง Lotus’s, Lotus’s go fresh, CP Fresh Mart และ 7-Eleven

 

พร้อมกับประกาศรับสมัครพ่อค้าแม่ค้าประจำทุกจุดขาย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพในช่วงฤดูกาลทุเรียนที่มีระยะเวลาประมาณ 100 วัน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 20,000 บาท และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ตั้งแต่เดือนแรกของการขาย 

 

โดยเครือซีพีจะเป็นฝ่ายรับซื้อทุเรียนคุณภาพโดยตรงจากกลุ่มเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น กลุ่มเกษตรกรสมาชิกการเกษตรเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ทุเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ และทุเรียนจากภาคอีสาน ทุเรียนภูเขาไฟ จากกลุ่มเกษตรกรคุณภาพที่มีเครื่องหมาย GI เป็นต้น ส่งต่อไปยังร้านค้า Let’s DO RIAN เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดร้านค้าตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2565 เป็นต้นไป

 

“ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้ทดสอบตลาด 5 จุด บริเวณหน้าสาขาห้างค้าปลีกของซีพีในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ละจุดสามารถขายทุเรียนได้วันละกว่า 100 ลูก” ณัชชาชนก ณ ตะกั่วทุ่ง สปอนเซอร์โครงการผักผลไม้ ภายใต้โครงการพัฒนาพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์

 

นอกจากทุเรียนแล้ว โครงการดังกล่าวยังเปิดเผยถึงทิศทางที่จะช่วยเกษตรกรสวนผลไม้ประเภทอื่นๆ ที่จะออกมาตามฤดูกาลต่างๆ ด้วย เช่น มังคุด

 

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ยอดการส่งออกทุเรียนสดไทยไปตลาดโลกในปี 2564 จะขยายตัวราว 35-40% มีมูลค่า 2,800-2,900 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านจะเริ่มรุกทำตลาดต่างประเทศเช่นกัน

 

แต่ด้วยกำลังการผลิตยังมีน้อยและกว่าผลผลิตรุ่นใหม่จะเร่งตัวคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-5 ปี สำหรับในทศวรรษจากนี้ไป ไทยจะต้องเจอการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากคู่แข่งหน้าใหม่ ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม รวมถึงอินโดนีเซีย

 

ดังนั้นเกษตรกรไทยจึงควรเร่งทำการตลาดเชิงรุกเพื่อมัดใจผู้บริโภครายใหม่ก่อนคู่แข่ง โดยเฉพาะการขยายตลาดทุเรียนไปยังมณฑลตอนในของจีน ทั้งการเร่งเจาะตลาดในรูปแบบอื่นเพื่อยกระดับทุเรียนไทยให้ครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้ต่อไป รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นในเอเชียที่คุ้นเคยกับผลไม้ไทยอยู่แล้ว และการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X