สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะผู้ป่วยสีแดงและสีส้มที่ยังรอเตียงเป็นจำนวนมาก วันนี้ (15 กรกฎาคม) THE STANDARD ลงพื้นที่ร่วมกับอาสาสมัครกลุ่มเส้นด้าย ติดตามเคสผู้ป่วยโควิดที่ติดโควิดทั้งครอบครัว 4 คน แต่ที่ลำบากกว่านั้นคือทั้ง 4 คน มีทั้งผู้สูงอายุป่วยติดเตียงอายุ 82 ปี, ผู้สูงอายุวัย 59 ปีมีโรคประจำตัว เด็กสาวอายุ 23 ปีเป็นออทิสติก และเด็กชายอายุ 7 ปี
กลุ่มเส้นด้ายสะท้อนการทำงานการส่งผู้ป่วยโควิด ว่าสถานการณ์เตียงเต็มยังวิกฤตมาก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเคสผู้ป่วยโควิดกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็ก จะเป็นกลุ่มที่ได้เตียงยากกว่าปกติ เพราะหลายโรงพยาบาลไม่มีศักยภาพรองรับที่จะดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มเปราะบางเหล่านี้
เคสที่คลองสามวาถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะมีทั้งผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว และเด็กออทิสติก โดยผู้สูงอายุป่วยติดเตียงกับผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวเป็นแม่ลูกกัน ทราบผลตรวจโควิดตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม แต่ต้องรอเตียงนานร่วมสัปดาห์ จนกลุ่มเส้นด้ายเข้ามาแล้วนำเรื่องราวลงเพจเส้นด้าย พร้อมประสานสื่อมวลชนให้ช่วยกระจายข่าวถึงมีความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานรัฐต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ เช่นเดียวกับเด็กออทิสติก ที่ทราบผลตรวจโควิดตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ก็เพิ่งได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน
THE STANDARD ลงพื้นที่ขณะที่กำลังรอรถพยาบาลมารับผู้สูงอายุวัย 59 ปีที่มีโรคประจำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลบุษราคัม ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายระหว่างการประสานงานว่ารถพยาบาลของหน่วยงานไหนจะมารับกันแน่ เพราะไม่มีระบบข้อมูลกลาง หลายครั้งที่แจ้งเคสชนกันทำให้เกิดปัญหาทับซ้อน แต่ที่สุดก็มีรถพยาบาลมารับ แต่นี่คือหนึ่งในครอบครัวที่โชคดีได้รับการช่วยเหลือเท่านั้น ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องเผชิญชะตากรรมนี้โดยลำพัง
