วันนี้ (12 ธันวาคม) การประชุมวุฒิสภาในวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พล.อ. อู้ด เบื้องบน ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้นำเสนอต่อที่ประชุมตามที่ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาทำหน้าที่ บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคือ สุเมธ รอยกุลเจริญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด
โดยก่อนการประชุมลับตามข้อบังคับการประชุม สว. เฉลิมชัย เฟื่องคอน ได้ขอหารือ เนื่องจากได้พบข้อมูลว่า ตามกฎหมายผู้ดำรงตำแหน่งจะต้องอายุ 45-68 ปี จึงเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 201 (2) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 9 (2) หรือไม่
ต่อมา ประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า คุณสมบัติผู้สมัครต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี และไม่เกิน 68 ปี นับแต่วันเข้ารับการคัดเลือกหรือเข้าสู่การสรรหา ซึ่งสุเมธอายุอยู่ในเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ทุกประการ กรรมาธิการฯ เกรงว่า สว. จะสงสัยว่าการพิจารณาวันนี้อายุเกินจะได้หรือไม่ จึงได้แนบวัน เดือน ปีเกิด และได้เรียนสุเมธว่าจะต้องเปิดเผยข้อมูล ซึ่งสุเมธยินดีที่จะเปิดเผยประวัติคือเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2498
ดังนั้นถ้าถือวันที่มีการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ณ วันนั้นคือ 19 กรกฎาคม 2566 อายุยังไม่เกิน แต่เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบประวัติยังไม่เป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาไป 90 วัน จึงทำให้เวลาเคลื่อนมา และเป็นช่วงปิดสมัยประชุม ทำให้เลยระยะเวลา 68 ปี แต่คุณสมบัติของการเข้ารับการคัดเลือกนั้นต้องถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ
สว. กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ยืนยันว่า คุณสมบัติของสุเมธไม่ขัด เพราะวันนี้เป็นกระบวนการลงมติเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ ได้อธิบายในเรื่องของวัน เวลา กระบวนการสรรหา รวมถึงข้อกฎหมาย ทำให้ไม่มี สว. ติดใจ และเดินหน้าสู่การพิจารณารายงานในส่วนที่เป็นข้อมูลลับและเป็นการประชุมลับ
ผลการประชุมวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนให้ความเห็นชอบสุเมธ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561) ด้วยคะแนนเสียง ให้ความเห็นชอบ 207 คะแนน ไม่ให้ความเห็นชอบ 3 คะแนน และไม่ออกเสียง 4 คะแนน
เป็นอันว่าผลการออกเสียงลงคะแนนให้สุเมธ ปรากฏว่าได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือไม่น้อยกว่า 122 คะแนน จึงเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ