×

กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ยื่นหนังสืออธิบดีกรมป่าไม้ ขอให้เพิกถอนใบอนุญาตทำโครงการผลิตไฟฟ้าฯ เหตุทับซ้อนที่ทำกิน มีการเอื้อประโยชน์

โดย THE STANDARD TEAM
28.04.2023
  • LOADING...
กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย

วันนี้ (28 เมษายน) ที่กรมป่าไม้ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมูแปลงที่ 2 ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ของบริษัท ๕๕๕ กรีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด เพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 

 

เนื่องจากขั้นตอนกระบวนการยื่นขออนุญาตไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง พื้นที่ขออนุญาตทับซ้อนที่ทำกินของประชาชน ตลอดจนมีพื้นที่บางส่วนมีภาระผูกพันทางกฎหมายและหน่วยงานกรมป่าไม้ยังใช้ประโยชน์อยู่ โดยวันนี้มี ประยุทธ เสี้ยวยิ้ม ผู้อำนวยการส่วนอนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ และ บัณฑิต วงศ์เสนานุรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชนกรมป่าไม้ เป็นตัวแทนของอธิบดีฯ เข้ารับหนังสือ

 

ทั้งนี้ตัวแทนของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ได้อ่านรายละเอียดและข้อเรียกร้องในการเข้ายื่นหนังสือให้ตัวแทนของกรมป่าไม้ที่เข้ามารับหนังสือในครั้งนี้ฟังว่า หากย้อนดูกระบวนการยื่นคำขอเพื่ออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลงที่ 2 เพื่อดำเนินการโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท ๕๕๕ กรีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด เป็นการยื่นขอที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรก จึงเป็นการกระทำผิดกฎหมายและระเบียบขั้นตอนอย่างชัดเจนดังต่อไปนี้ 

 

  1. ไม่มีการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ในรัศมีที่จะตั้งโครงการ และไม่มีการทำประชาคมหมู่บ้านก่อนยื่นต่อสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลาย เพื่อให้มีมติในการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งต่อมาสภาเทศบาลคำป่าหลาย มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ระบุชัดเจนว่า หากไม่มีการทำประชาคม มติโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมก่อนหน้านี้ต้องเป็นโมฆะ 

 

  1. ไม่มีการตรวจสอบพื้นที่และกำหนดขอบเขตที่จะตั้งโครงการให้ชัดเจน ไม่มีการตรวจสอบสภาพป่าก่อนยื่นเอกสารประกอบให้สภาเทศบาลคำป่าหลายมีมติเห็นชอบ เพราะรายงานตรวจสอบสภาพป่าและเอกสารประกอบอื่นๆ ปรากฏขึ้นภายหลังสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลายมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการปรับลดพื้นที่ภายหลังการมีมติสภาฯ จึงทำให้มติเดิมที่มีออกมาต้องเป็นโมฆะ จึงแสดงให้เห็นว่ากระบวนการในการยื่นขอมีปัญหาและทำให้เกิดความขัดแย้งกับราษฎรในพื้นที่จริง 

 

  1. ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทผู้ยื่นขอดำเนินโครงการฯ ว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะบริษัทพิพาทที่ยื่นเพิ่งขอจดแจ้งจัดตั้งบริษัท ก่อนยื่นสภาเทศบาลคำป่าหลาย เพื่อเห็นให้ชอบในการดำเนินโครงการฯ เพียงไม่กี่วัน และที่สำคัญรายชื่อกรรมการบริษัท (ขณะยื่นคำขอ) ยังมีข้อกังขาว่าอาจมีเอี่ยวกับการทำธุรกิจสีเทา 

 

  1. มีเจ้าหน้าที่ราชการฝ่ายปกครองท้องที่และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องพยายามวิ่งเต้น เอื้อประโยชน์ เพื่อให้เกิดโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม อีกทั้งมีกระทำการที่ชัดเจน ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขู่ คุกคามราษฎร ซึ่งปัจจุบันกลุ่มฯ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว กำลังยื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญา 

 

  1. ทางกลุ่มฯ ขอยืนยันว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ ยังไม่ได้มีการแก้ไข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกรมป่าไม้ก็ทราบดีและยังบิดเบือนข้อเท็จจริง รวมถึงออกใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ จึงเป็นการจงใจละเว้นอย่างชัดเจน 

 

จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่ากระบวนการดำเนินการยื่นขออนุญาตฯ ที่ไม่โปร่งใส มีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปรากฏรายชื่อผู้ที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการธุรกิจสีเทาเป็นอดีตกรรมการของบริษัทผู้ที่กำลังยื่นขอดำเนินโครงการฯ ที่ปัจจุบันกำลังเป็นข่าวในสังคม หากกรมป่าไม้ปล่อยให้มีการดำเนินโครงการฯ นี้ นอกจากจะส่งผลกระทบกับราษฎรในพื้นที่แล้ว ก็จะไม่เป็นผลดีต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแน่นอน

 

กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลายได้ยืนยันคัดค้านโครงการดังกล่าวมาโดยตลอดตามเหตุผลข้างต้น แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 กรมป่าไม้กลับอนุญาตให้บริษัทดังกล่าวใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ เพื่ออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลงที่ 2 เพื่อดำเนินการโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท ๕๕๕ กรีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด โดยกลับเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนของชาวบ้านมาโดยตลอด 

 

ฉะนั้นทางกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลายจึงเรียนมายังท่านเพื่อขอให้เพิกถอนใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูแปลงที่ 2 ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัท ๕๕๕ กรีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด หากได้ผลเป็นประการใดขอให้ท่านได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร และนอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้ขอสำเนาเอกสารการอนุญาตให้บริษัทเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ อีกด้วย 

 

ทั้งนี้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้รับหนังสือเสร็จแล้วได้ประชุมร่วมกับกลุ่มฯ โดยประยุทธระบุกับตัวแทนกลุ่มที่เข้าร่วมประชุมว่า ในส่วนของประเด็นต่างๆ ที่กลุ่มมายื่นข้อเรียกร้องในวันนี้จะนำเข้าสู่การประชุมส่งต่อให้ทางอธิบดีพิจารณาต่อไป

 

ส่วนประเด็นสำเนาเอกสารการอนุญาตให้บริษัทเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ที่กลุ่มขอมานั้น ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าสงวน ตามมาตรา 13/2 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2559 เพราะเอกสารดังกล่าวก็มิได้เป็นเอกสารที่จะปกปิดใดๆ หากการจะให้เอกสารอะไรถ้าเราให้ไปแล้วต้องรับผิดชอบโดยลำพัง

 

ถ้าตนให้ไปก็จะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และเอกสารของทางราชการบางอย่างให้ไปก็จะผิดกฎหมายอาญา ก็ต้องให้ผู้บังคับบัญชาเห็นชอบก่อน ตนก็จะนำเข้าสู่การหารือของคณะกรรมการ ถ้าคณะกรรมการเห็นชอบ ผู้บังคับบัญชาเห็นชอบ ก็สามารถให้ได้ ไม่มีปัญหาอะไร  

 

ด้านตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เข้าใจความเดือดร้อนของชาวบ้านที่มายื่นข้อร้องเรียนในวันนี้ด้วย เราเดินทางมาจากต่างจังหวัดตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวานนี้ (27 เมษายน) เพื่อที่จะมารอยื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ มารอตั้งแต่เวลา 04.00 น.  

 

นอกจากการเดินทางที่ยากลำบากของพวกเราแล้ว ในพื้นที่ตอนนี้ก็ถือเป็นเรื่องร้อน เพราะบริษัทได้เข้ามาปักป้ายในพื้นที่ทำกินของพวกเราแล้ว ไม่รู้ว่าวันไหนคืนไหนเขาจะเข้ามาในพื้นที่ทำกินของพวกเรา ปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าก็ยังแก้ไม่เสร็จยังมีปัญหาของโรงไฟฟ้ากังหันลมที่เข้ามาตั้งซ้ำเติมในพื้นที่ของชาวบ้านอีก วันนี้ก็เท่ากับพวกเราแทบจะไม่เหลือช่องทางอะไรทำกินกันได้อีกเลย 

 

ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุม อดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย กล่าวว่า คำตอบที่เราได้จากผู้อำนวยการส่วนอนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ เราได้คำตอบที่ชัดเจนว่าไม่สามารถให้สำเนาใบอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนที่กลุ่มฯ ขอไปได้ เพราะเป็นเอกสารที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง และเขาไม่มีอำนาจในการพิจารณา และเราก็ยังได้รับคำตอบอีกด้วยว่ากรมป่าไม้จะเอาเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาภายใน  2 สัปดาห์ว่าจะอนุญาตให้คณะกรรมการพิจารณาตามที่เราขอ ซึ่งหลังจากนี้เราจะติดตามอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่มีการพิจารณาอีก 1 เดือนเราก็จะได้มาเยี่ยมกรมป่าไม้อีกครั้ง 

 

ขณะที่ สมัย พันธะโคตร สมาชิกในกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย กล่าวว่า เราตั้งความหวังกับการเข้ามายื่นเรื่องในวันนี้พอสมควร แต่วันนี้ท่าทีการสื่อสารของทางราชการก็เหมือนไม่ใส่ใจและสนใจในปัญหาของเราเท่าไร เราเดินทางมาจากมุกดาหารเพื่อมาถึงที่นี่ตั้งแต่เวลา 04.00 น. พอมาถึงนึกว่าจะได้ความหวัง แต่กลับมาบอกกับชาวบ้านว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจมากพอ ต้องรอในหลายๆ ส่วน ตอนนี้พวกเราต้องเสียเวลาในการทำมาหากิน ทั้งต่อสู้เรื่องสิทธิในที่ดินทำกินแล้วยังต้องมาต่อสู้เรื่องโรงไฟฟ้ากังหันลมอีก ก็หวังว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกเราให้ได้โดยเร็วที่สุดด้วย  

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising