×

ด้วยพลังแห่งจันทรา จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้! จิบค็อกเทล ชมจันทร์ ที่บาร์ Cloud Across the Moon

18.01.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS READ
  • บาร์ใหม่เปี่ยมด้วยดีไซน์ ที่นั่งตรงไหนก็รู้สึกสบาย ฮิป และคูล
  • จะปาร์ตี้คนเดียวก็สนุกได้ ไม่ดูหดหู่หรือเหมือนเพื่อนไม่คบ แถมยังมีค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่เหล้าสายหวานต้องปลื้มอกปลื้มใจ
  • พระจันทร์ดวงใหญ่ตรงกำแพงร้าน ที่ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปคู่ถือว่ามาไม่ถึง

ณ ซอยปรีดี พนมยงค์ 14 คือที่สถิตของบาร์เล็กๆ ที่ชื่อ Cloud Across The Moon (คลาวด์ อะครอส เดอะ มูน) ซึ่งหลังจากเดินเข้ามาในซอยได้สักพัก ก็อาจจะลำบากในการหาสักหน่อย เนื่องจากไม่มีป้ายที่บอกเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าไม่สังเกตดวงจันทร์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นบาร์

 

บรรยากาศภายในร้านที่จำลองพระจันทร์มาไว้ถึงข้างใน

 

The Vibe

ตัวร้านเปี่ยมด้วยการดีไซน์จากไอเดียของหุ้นส่วนร้านที่ทำงานสายครีเอทีฟ แต่เนื่องจากงานที่ทำอยู่มีความไม่แน่ไม่นอนบางประการ เลยตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่าง จึงลุกขึ้นมาทำบาร์เป็นของตัวเอง เกิดเป็น ‘บาร์พระจันทร์’ แห่งนี้ และเนื่องจากเป็นคนชอบดื่มเหล้า สังสรรค์ และทำงานที่ต้องพบปะคนมากมาย เลยเป็นทุนทำให้และได้บาร์เทนเดอร์มาร่วมหุ้นเปิดร้าน และชื่อร้าน Cloud Across The Moon ก็มาจากแรงบันดาลใจจากการดูแฟชั่นโชว์ และหลงเสน่ห์กับเพลง Cloud Across The Moon ของวง RAH Band แล้วเกิดชอบขึ้นมา ก็เลยทำให้ปักษธรดวงโตกลายมาเป็นนางเอกของบาร์แห่งนี้ไป

 

การตกแต่งที่เหมือนมาบ้านเพื่อนสักคน

 

ถึงแม้พื้นที่ภายในจะไม่ได้เยอะแยะ แต่เนื่องจากความเข้าใจด้านการออกแบบที่ดีของผู้ก่อตั้งที่เข้าใจในเรื่องของสเปซ ทำให้พื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ดูกว้างขวาง นอกจากนี้องค์ประกอบหลายๆ อย่าง เช่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในทุกชิ้นช่างมีความแตกต่างกัน ไม่ได้เข้าคู่กันเสมอไป แต่เพราะดวงตาที่เปี่ยมด้วยสุนทรียะ ก็สามารถกลมกลืนได้ ทำให้คล้ายกับการมาบ้านใครสักคนที่โต๊ะเก้าอี้ก็ไม่ได้มาเป็นชุดเสมอไป ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าผ่อนคลายจนเกินไป ด้วยแสงสีที่ทางร้านจัด สร้างพลังงานไหลเวียน ทำให้ลูกค้ายังตื่นตัวและสังสรรค์กันได้อย่างเต็มที่

 

แสงไฟเปรี้ยวซ่าแต่ยังสลัวๆ แบบแสงจันทร์

 

The Music

ที่นี่จะมีดีเจหมุนเวียนมาเปิดเพลงอยู่ทุกสุดสัปดาห์เพื่อความบันเทิงและความสด เพลงที่จะเปิดก็มีตั้งแต่เพลงในยุค 70 อย่างเพลงของวงในตำนานอย่าง Bee Gees ไปจนถึงการมิกซ์เพลง โดยดีเจที่เป็นขาประจำของที่นี่ก็มี DJ Flashbar และ DJ Burton.G ซึ่งร้านนี้ไม่ได้รังเกียจที่จะให้แขกเหรื่อได้ลุกขึ้นมาขยับแข้งขยับขากันเมื่อดนตรีนำพา ดังนั้น ถ้าจะมากับเพื่อน คุยกันไม่กี่คน แล้วเกิดคึก อยากลุกขึ้นมาโชว์ลีลาท่าเต้นที่เรียนจากยูทูบเมื่อคืน ทางร้านก็ไม่ว่ากัน

 

ท่องน้ำผึ้งพระจันทร์กับ Honeymoon กันไหม?

 

The Drinks

เนื่องจากที่นี่วนเวียนอยู่กับพระจันทร์ แน่นอนว่า ชื่อของเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่นี่ย่อมต้องเกี่ยวพันกับดาวบริวารของโลกเป็นธรรมดา ลอง Honeymoon (240 บาท) ค็อกเทลที่หอมกลิ่นน้ำผึ้งแท้ที่เบสเป็นเตกีลา เติมกลิ่นและรสส้มเล็กน้อยด้วยทริปเปิลเซก เอาความเปรี้ยวจี๊ดด้วยน้ำมะนาว และเติมความลุ่มลึกแบบสมุนไพรด้วยใบโหระพา เป็นดริงก์ที่ดื่มแล้วไม่รู้สึกเหมือนถูกเผาคอ ซึ่งน่าจะมาจากน้ำผึ้งที่ช่วยให้การดื่มลื่นไหลและสบาย แต่ดื่มเข้าไปก็ร้อนท้องตามสไตล์เหล้าที่เลือกมาเป็นเบส

 

Half Moon พระจันทร์เสี้ยวกับผงบ๊วยเข็ดฟันเล็กๆ

 

หรือจะลอง Half Moon (140 บาท) ช็อตสาเกที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเลมอนชิ้นโต คลุกเคล้าด้วยผงบ๊วย โดยวิธีดื่มก็คล้ายกับการดื่มช็อตให้หมดและกัดเลมอน รสสัมผัสของสาเกที่หอมกลิ่นฟลอรัลกับบ๊วยผงที่ผสมกับน้ำเลมอน ช่างตัดกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ

 

ชมจันทร์กับ Stardust แก้วนี้

 

อีกเมนูที่ชวนนึกถึงดาวพร่างนภา Stardust (240 บาท) เหล้าที่ใช้เป็นเบสด้วยไวต์รัม ผสมกับทริปเปิลเซก น้ำเชื่อม และน้ำแครนเบอร์รี และกลิตเตอร์ระยับที่ดื่มได้ทำให้ตัวดริงก์มีความเหมือนฝุ่นควันอวกาศ จึงเป็นที่มาของชื่อดริงก์ตัวนี้นั่นเอง และเพิ่มความหวานอีกนิดด้วยการริมขอบแก้วด้วยน้ำตาลหลากสี ซึ่งต่อให้มีองค์ประกอบความหวานและรสชาติฟรุตตี้ แต่แก่นของเหล้ายังคงอยู่

 

Evening Dew กับดอกเอลเดอร์หอมๆ

 

และอย่าลืม Evening Dew (240 บาท) ทันทีที่รับแก้วมาจากบาร์เทนเดอร์ ก็ได้กลิ่นหอมของดอกเอลเดอร์ที่เตะจมูก มีกลิ่นซิตรัสของเลมอนและส้มผสมอยู่ ซึ่งมาจากเนื้อเลมอนและทริปเปิลเซก แก้วนี้มีวอดก้าเป็นเบส จึงให้ความรู้สึกร้อนวูบๆ แบบพอดิบพอดี

 

Cloud Across The Moon

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.00-01.00 น.

Address: ซอยปรีดี พนมยงค์ 14 สุขุมวิท 71

Budget: 140-400 บาท

Contact: 0 2046 6928

Page: www.facebook.com/pg/cloudsacrossthemoon.bkk

Map:

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

FYI
  • ที่ร้านมี Happy Hour ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. ซื้อคลาสสิกค็อกเทล 1 แถม 1 และดราฟต์เบียร์ (Asahi), ไวน์ (Mont Clair) และ Highball (Suntory) แก้วละ 80 บาท
  • จำนวนเครื่องดื่มอาจไม่ได้มีให้เลือกเยอะแยะ แต่จากที่ดูบนชั้นแล้ว เห็นได้ว่ามีแต่เหล้าชั้นดีที่ราคาเอื้อมถึงทั้งนั้น เช่น วอดก้า Stolichnaya หรือวิสกี้อย่าง Glenlivet รุ่น Founder’s Reserve เป็นต้น
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising