×

วราวุธ ชี้แจงกรณีรีสอร์ตรุกป่าถูกยกฟ้องไปแล้ว ยืนยันใครทำร้ายผืนป่า “เราจะไม่ยอม”

25.07.2019
  • LOADING...
วราวุธ ศิลปอาชา

วันนี้ (25 ก.ค.) วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลุกขึ้นตอบคำถามของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ถึงประเด็นของ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท ว่ามีการดำเนินอย่างไร แล้วคนที่มีฐานะและไม่มีฐานะจะดำเนินเหมือนกันหรือไม่ 

 

วราวุธเผยว่า กรณีของรีสอร์ตดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 ได้มีการเข้าไปดำเนินคดี จนผ่านมาถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ทางอัยการได้ออกคำสั่งอันมีที่สิ้นสุดว่าไม่ฟ้องในกรณีนี้ แต่ทว่าในปี 2560 มีการฟ้องร้องกันเพิ่มเติม ทำให้ในณะนี้กำลังดูว่าการที่อัยการไม่ฟ้องนั้นมีหลักการและเหตุผลอย่างไร และดูพื้นที่ดังกล่าวที่อัยการบอกว่าเป็นของ ส.ป.ก. นั้นเป็นความจริงหรือไม่ และต้องมาตรวจสอบกันอีกว่า ถ้าเป็นในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือกรมอุทยาน ก็เป็นส่วนที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมาหารือกันว่าแท้จริงแล้วเป็นที่ของใคร

 

“โดยที่ผ่านมา กรณีของอำเภอวังน้ำเขียวมีคดีดำเนินการถึง 352 คดี และทยอยออกคำสั่งตามการปกครองตาม ม.22 แล้ว 207 คดี และรื้อถอนเสร็จแล้วจำนวน 119 คดี และเหลือการดำเนินการอยู่ 88 คดี ดังนั้นเราให้ความมั่นใจได้ว่า หากใครจะมาทำร้ายผืนป่าประเทศไทยในรัฐบาลนี้เราไม่ยอมแน่นอน”

 

สำหรับประเด็นต่อมาคือ การจัดการและการถือครองที่ดินว่าจะมีการจัดการอย่างไร ทางวราวุธชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาถือครองที่ดินนั้น ทางรัฐบาลมีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งก็จะรับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการที่ดิน โดยจะกำหนดมาตรการและแนวทางที่จะกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม และติดตามการบริการที่ดินอย่างเป็นประสิทธิภาพให้ได้ตามหลักเกณฑ์การจัดที่ดิน และที่สำคัญการจัดการนั้นเราจะให้เป็นรูปแบบการจัดการแปลงรวม 

 

“ที่สำคัญคือเราไม่ได้ให้กรรมสิทธ์ เพียงแต่อนุญาตให้ทำประโยชน์ในที่ดินที่เป็นของรัฐหรือกลุ่มชุมชน ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คทช. กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม ซึ่งการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวนั้น หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจทางกฎหมายในแต่ละที่ดินจะเป็นผู้กำหนดระเบียบกฎเกณฑ์และเงื่อนไขภายภายใต้ความเห็นชอบของ คทช.”

 

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินนั้น ทาง รมว.ทส. เผยว่า ทางรัฐได้ทำการดำเนินงานที่ทำกินแบบแปลงรวม แต่ไม่ให้กรรมสิทธ์ และที่ผ่านมาได้อนุญาตให้ประชาชนเข้าใช้แล้วกว่า 600,000 ไร่ จากพื้นที่เป้าหมายกว่า 1.3 ล้านไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์อีก 40,000 ราย

 

ส่วนประเด็นของ ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่พูดถึงนโยบายลังเลกับการทวงคืนผืนป่า การให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าเป็นนโยบายที่สวนทางกัน ทางวราวุธแจงว่า เป้าหมายการบังคับใช้ทวงคืนผืนป่านั้นเน้นไปที่การนำเนินงานกับกลุ่มนายทุนที่เพิ่มเข้ามายึดครองที่ดินแบบผิดกฎหมายเป็นหลัก และจะฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวให้กลับมาดีดังเดิม โดยบางพื้นที่ที่เหมาะสมจะมีการนำไปจัดสรรให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้มีพื้นที่ทำกินตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 ที่เป็นมติเห็นชอบการจัดการแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ของคณะกรรมนโยบายที่ดินแห่งชาติ และที่ผ่านมาได้ยุบที่ดินยางพาราจากกลุ่มนายทุนที่ผิดกฎหมายแล้วกว่า 500,000 ไร่ 

 

“รัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกประยุทธ์ เรื่องป่าและคนต้องอยู่ด้วยกันให้ได้ ส่วนจะเป็นเรื่องป่ารุกคนหรือคนรุกป่านั้น เดี๋ยวเราต้องค่อยมาแก้กัน ประชาชนทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยจะต้องได้รับการดูแล และที่สำคัญทรัพยากรที่สำคัญของไทย ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายเด็ดขาด แต่เราต้องเดินไปด้วยกัน” วราวุธ ศิลปอาชา กล่าวทิ้งท้าย

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising