×

UOB บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อย Citigroup ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์ คาดช่วยขยายฐานลูกค้าอาเซียนเพิ่มเป็น 2 เท่า

14.01.2022
  • LOADING...
UOB

กลุ่มธนาคารยูโอบี (UOB) ได้ทำข้อตกลงเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ซึ่งรวมถึงสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย (ธุรกิจลูกค้ารายย่อย) ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม (การเสนอซื้อกิจการ) และรวมไปถึงพนักงานธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่าราว 4.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปมีสินทรัพย์สุทธิรวมทั้งสิ้นประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และฐานลูกค้าราว 2.4 ล้านราย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2021 และมีรายได้ประมาณ 0.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 หากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกรรมนี้ในครั้งเดียว การเสนอซื้อกิจการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของธนาคาร และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ของธนาคารยูโอบีได้ทันที

 

สำหรับการพิจารณาข้อเสนอเงินสดสำหรับการเสนอซื้อกิจการนี้จะคำนวณจากค่าพรีเมียมรวม ซึ่งเทียบเท่ากับ 915 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ บวกกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของธุรกิจลูกค้ารายย่อยเมื่อการโอนย้ายกิจการเสร็จสมบูรณ์ ธนาคารยูโอบีจะใช้ทุนส่วนเกินของธนาคารเพื่อการเสนอซื้อกิจการครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะลดอัตราส่วนของเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Common Equity Tier 1 หรือ CET1) ของธนาคารลง 0.7% เป็น 12.8% ตามสถานะเงินทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2021 ผลกระทบต่ออัตราส่วน CET1 คาดว่าจะมีไม่มากและจะยังอยู่ภายในข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล

 

การเข้าซื้อกิจการในแต่ละประเทศจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศสิงคโปร์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างกลางปี 2022 ถึงต้นปี 2024 ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าและผลของกระบวนการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร ซิตี้กรุ๊ปจะทำงานร่วมกับยูโอบีและธนาคารในเครือ (รวมเรียกว่ากลุ่มธนาคารยูโอบี) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การโอนย้ายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารยูโอบี กล่าวว่า การซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปใน 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม นับเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่มาถึงในเวลาที่เหมาะสม ยูโอบีเชื่อในศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีวินัยและอดทนรอในการเสาะหาโอกาสที่ใช่เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ ในระหว่างการรอความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร เรามุ่งหวังที่จะโอนย้ายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่มีคุณภาพของซิตี้กรุ๊ป และเตรียมต้อนรับทีมงาน รวมถึงสร้างคุณค่าให้กับฐานลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ของเราที่ขยายใหญ่ขึ้น 

 

“การซื้อกิจการนี้เมื่อรวมกับจำนวนผู้บริโภคของยูโอบีในภูมิภาค จะเป็นการรวมตัวที่ทรงพลังในการขยายธุรกิจของกลุ่มธนาคารยูโอบี และก้าวสู่ตำแหน่งธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว” วี อี เชียง กล่าว

 

ด้านปีเตอร์ บาเบจ ประธานกรรมการบริหาร ซิตี้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปรู้สึกยินดีที่ได้ประกาศธุรกรรมนี้กับยูโอบี โดยมั่นใจว่าธนาคารยูโอบีซึ่งมีวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและศักยภาพของเครือข่ายธนาคารในภูมิภาคนี้ จะมอบโอกาสอันยอดเยี่ยมและเป็นบ้านอันมั่นคงให้แก่เพื่อนพนักงานของธุรกิจกลุ่มลูกค้ารายย่อยในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม การดำเนินการทางธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถเพิ่มการลงทุนในยุทธศาสตร์ที่เรามุ่งเน้น ซึ่งรวมถึงเครือข่ายลูกค้าสถาบันของเราทั่วเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมที่สุดให้กับซิตี้

 

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจรายย่อยของธนาคารยูโอบี ได้แก่ การเจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การรุกกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่าน UOB TMRW แพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร และให้บริการด้านการเงินผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni-Channel) เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง การเสนอซื้อกิจการนี้จะขยายเครือข่ายพันธมิตรของยูโอบีและเพิ่มขนาดธุรกิจลูกค้ารายย่อยในทั้ง 4 ประเทศขึ้นเป็น 2 เท่า เร่งให้บรรลุเป้าขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคเร็วขึ้นถึง 5 ปี

 

ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปมีพนักงานประมาณ 5,000 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริหารระดับสูงและทีมงานมากประสบการณ์ การเข้ามาร่วมงานกับธนาคารยูโอบีจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธนาคารยูโอบี กลุ่มธนาคารยูโอบีพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าและพนักงานของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะได้รับข้อมูลความคืบหน้าของการเสนอซื้อกิจการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

Credit Suisse (Singapore) Limited เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับกลุ่มธนาคารยูโอบีในการเสนอซื้อกิจการนี้ และ Allen & Overy LLP (สิงคโปร์) เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

 

อ้างอิง:

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising