×

ทริปสั้น ริมหาด ปล่อยวางจากโลกโซเชียลที่ Chiva-Som หัวหิน

30.06.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • หลังจากที่ได้ลองใช้เวลาอยู่ที่นั่น 3 วัน 2 คืน เราพบว่าจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องพกมือถือติดตัวตลอด 24 ชั่วโมง ชีวิตก็ราบรื่นดี ความวิตกกังวลส่วนใหญ่เกิดจากการกลัวไปเอง
  • และเมื่อไม่มีมือถือให้ใช้ให้ตามเช็กข่าวสารในโลกโซเชียล สิ่งที่ได้กลับมาคือ เวลาที่มากขึ้น เวลาในการอ่านหนังสือที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว เวลาในการเข้าคลาสสนุกๆ ที่มีตลอดทั้งวันในรีสอร์ต ได้เข้าห้องซาวน่า ว่ายน้ำเล่น ฯลฯ ทั้งหมดนี้ถือเป็น Quality Time ที่ขาดหายไปนาน 

หยุดยาวนี้มีแพลนเที่ยวแล้วหรือยัง?

 

รีสอร์ตไทยเจ้าของรางวัลระดับโลกอย่าง Best Destination Spa จาก Condé Nast Traveller The Spa Awards 2020 พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง แถมยังเอาใจคนไทยด้วยแพ็กเกจพิเศษ Wellness Getaways สำหรับคนที่กำลังมองหาทริปสั้นๆ สำหรับการพักผ่อนที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ   

 

หลังเปิดให้บริการมาจนครบ 25 ปี ตอนนี้ Chiva-Som หรือชีวาศรม ได้ปรับโฉมรีสอร์ตให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนส ห้องอาหาร ฯลฯ เรื่อยไปจนถึงรูปแบบการให้บริการ เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน และสถานการณ์ในช่วงนี้ยิ่งขึ้น โดยที่ยังไม่ทิ้งปรัชญาของรีสอร์ต อย่างการเป็นรีสอร์ตที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งกายและใจ อันได้แก่ โภชนาการ การออกกำลังกาย กายภาพบำบัด สปา แพทย์ทางเลือก และความงาม ที่คุณจะได้รับจากการเข้าพักในสถานที่แห่งนี้

 

นอกจากเรื่องความพักผ่อนแล้ว ชีวาศรมยังมีมาตราการป้องกันการแพร่เชื้อโรคอย่างรัดกุม ทั้งในส่วนของการจัดเตรียมสถานที่ การเทรนพนักงาน การให้บริการ รวมถึงแขกที่เข้ามาพักเองก็ต้องป้องกันการแพร่เชื้อโรคเช่นกัน เพื่อให้แขกที่เข้ามาพักมั่นใจ และปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่พักผ่อน  

 

 

 

Wellness Getaways แพ็กเก็จใหม่สำหรับคนไทยและต่างชาติที่พำนักในไทย   

 

เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน จากเดิมที่การเข้าพักขั้นต่ำของรีสอร์ตอยู่ที่ 4 วัน 3 คืน ทางรีสอร์ตได้ออกแพ็กเก็จใหม่สำหรับชาวไทยที่มองหาทริปสั้นๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วยแพ็กเก็จที่พัก 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหาร 3 มื้อต่อวัน รวมการเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และการทำทรีตเมนต์ต่างๆ ในรีสอร์ต เช่น การทำสปา การนวดตัว และสามารถเข้าคลาสออกกำลังกายต่างๆ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติมอีก เพราะทุกอย่างรวมไว้ในราคาแพ็กเก็จแล้ว แต่สำหรับคนที่มาไม่ได้เข้าพักที่นี่แต่อยากใช้บริการชีวาศรม ก็สามารถเลือกโปรแกรมดูแลสุขภาพแบบครึ่งวัน ( 5,000 บาท) และแบบเต็มวัน (9,000 บาท) ได้เช่นกัน ซึ่งคุณสามารถสอบถามรายละเอียดได้กับทางรีสอร์ต 

และหากไม่อยากขับรถไปเอง เพราะเบื่อกับการขับรถในเมืองกรุงแทบทุกวัน ทางรีสอร์ตก็มีลิมูซีนรับ-ส่งถึงบ้าน (มีค่าใช้จ่ายแยก) ช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งรถที่มารับก็มีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งการติดที่กั้นระหว่างคนขับและผู้นั่งตอนหลัง มีบริการเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย น้ำดื่มและอาหารว่าง  

 

 

มาดูในส่วนของห้องพักกันบ้าง ห้องพักในแพ็กเก็จนี้จะเป็นห้องโอเชียนรูมที่อยู่ติดริมทะเล มองเห็นวิวทะเลหัวหิน ภายในห้องพักแน่นอนว่าใหม่มาก และกว้างขวางมากเช่นกัน มีโซนห้องน้ำและโซนแต่งตัวแบ่งแยกชัดเจน มีระเบียงที่สามารถออกไปนั่งชมวิวด้านนอกได้ นอกจากนั้นยังมีผลไม้สดเสิร์ฟตลอดทั้งวัน รวมถึงเครื่องดื่มในตู้เย็นที่บัตเลอร์ประจำห้อง (ใช่แล้ว ในแพ็กเก็จนี้คุณจะได้บัตเลอร์ส่วนตัวด้วย) หมั่นเติมมินิบาร์ คอยดูแลคุณให้ตลอด 3 วันที่เข้าพัก 

 

โซนห้องพัก Thai Pavilion 

 

นอกจากห้องประเภทนี้ ยังมีห้องพักส่วน Thai Pavilion สำหรับแขกที่มาเป็นกรุ๊ปใหญ่หรือมาเป็นครอบครัว ที่พักส่วนนี้จะอยู่บริเวณสวนและบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีความเป็นส่วนตัวสูง โอ่โถง แถมยังมีศาลาที่ยื่นไปในบ่อน้ำแบบส่วนตัวอีกด้วย 

  

 

ไม่มีมือถือ ก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป  

 

อย่างที่บอกว่าชีวาศรมต้องการให้แขกพักผ่อน และดีท็อกซ์กาย-ใจอย่างแท้จริง กฎเหล็กของที่นี่จึงไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือในพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากภายในห้องพัก ห้องสมุด ล็อบบี้ และบริเวณบ่อปลา เพื่อให้คุณได้ค้นพบความสงบจากการอยู่ในห่างจากหน้าจอมือถือ 

 

แม้ฟังดูน่ากลัว แต่หลังจากที่ได้ลองใช้เวลาอยู่ที่นั่น 3 วัน 2 คืน เรากลับพบว่าจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องพกมือถือติดตัวตลอด 24 ชั่วโมง ชีวิตก็ราบรื่นดี ความวิตกกังวลส่วนใหญ่เกิดจากการกลัวไปเอง และเมื่อไม่มีมือถือให้ใช้ ให้ตามเช็กข่าวสารในโลกโซเชียล สิ่งที่ได้กลับมาคือเวลาที่มากขึ้น เวลาในการอ่านหนังสือที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว เวลาในการเข้าคลาสสนุกๆ ที่มีตลอดทั้งวันในรีสอร์ต ได้เข้าห้องซาวน่า เล่นโยคะ ว่ายน้ำเล่น ฯลฯ ทั้งหมดนี้ถือเป็น Quality Time ที่ขาดหายไปนาน  

 

 

ว่ายน้ำแบบไม่กลัวผิวเสีย เมื่อมีสระในร่ม 

 

นอกเหนือจากคลาสต่างๆ ที่กล่าวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโยคะ พีราทิส ไทชิ รวมถึงการออกกำลังกายในน้ำหรือเต้นแอโรบิกในน้ำ ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำถึง 2 แห่ง แห่งแรกอยู่ติดทะเล เหมาะกับการว่ายเล่นในช่วงเย็นๆ เพราะคุณจะได้ชมวิวท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หรือถ้าอยากลงทะเลก็สามารถยืมเรือคายัค หรือกระดานพายจากรีสอร์ตที่อยู่ในบริเวณเดียวกันได้ด้วย  

 

แต่หากเป็นช่วงบ่ายๆ ช่วงเวลาที่คนไม่กล้าเล่นน้ำเพราะกลัวแดด แนะนำให้ไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำในร่มที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ ข้อดีของสระแห่งนี้คือมีร่มเงาทำให้ไม่ต้องกลัวผิวคล้ำ มีโซนให้นอนอาบแดด มีบ่อแช่ตัวในน้ำร้อนและน้ำเย็น มีโซนสระหินนวดเท้า มีดนตรีเปิดคลอเบาๆ ให้ว่ายไป ชิลไป    

 

 

 ด้านในโซนสระน้ำในร่ม

 

 

 

Health and Wellness Centre เต็มรูปแบบในหัวหิน

 

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ชีวาศรมโดดเด่นและแตกต่างจากรีสอร์ตอื่นในหัวหิน ได้แก่ การให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจ ที่นี่จึงก่อตั้ง Health and Wellness Centre หรือ ศูนย์รวมการบริการด้านสุขภาพที่เปรียบเสมือนล็อบบี้แห่งที่ 2 ไว้สำหรับติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากคุณมีเป้าหมายในการเข้าพัก เช่น ต้องการลดหุ่น อยากฟื้นฟูร่างกาย คลายเครียด ฯลฯ รวมถึงการนัดหมายเพื่อทำทรีตเมนต์ต่างๆ ในแพ็กเก็จ ในโซนนี้จะมีห้องสปา ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ จากุซซี บ่อน้ำเย็น และเตียงน้ำอุ่น แยกชาย-หญิง รวมไว้ในอาคารเดียว     

 

 

อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ 

 

เวลาได้ยินคำว่าอาหารเพื่อสุขภาพ หลายคนอาจกลัวว่าจะกินยาก หรือมีรสชาติที่ไม่ถูกปาก แต่สำหรับชีวาศรม อาหารของที่นี่นอกจากจะดีต่อสุขภาพ เน้นการใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ เครื่องปรุงรสหนักๆ และอาหารแปรรูปต่างๆ แล้ว แต่ละจานยังมีแคลอรีต่ำ และมีหน้าตาที่สวยงาม รสชาติดี ไม่จืดชืด ต่อให้ไม่เป็นสายสุขภาพก็กินแบบอิ่มหนำสำราญได้ 

 

จากเดิมให้บริการในรูปแบบบุฟเฟต์เท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ปรับให้สามารถสั่งกินได้จากโต๊ะรับประทานอาหาร หรือจะเดินไปตักเองก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตการป้องกันที่ทางรีสอร์ตวางไว้เท่านั้น  

 

อาหารแน่นทั้งคาวและหวาน

 

ข้อดีคือหากถูกใจจานไหนก็สามารถสั่งเบิลได้ไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย จานหลัก ขนมหวาน รวมถึงเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ และสมูทตี้ ที่รวมอยู่ในแพ็กเกจเข้าพักแล้วเช่นเดียวกัน 

 

ส่วนของมุมกาแฟติดริมหาด 

 

 

ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท 

 

Address: 73/4 ถ.เพชรเกษม ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110

Budget: แพ็กเก็จ Wellness Getaways 3 วัน 2 คืน ราคาคืนละ 19, 500 บาทต่อคน สำหรับการพักอย่างน้อย 2 คืน และพัก 2 ท่านต่อห้อง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 

Contact: 0 3253 6536

E-mail: [email protected] หรือ Add LINE: @Chivasom 

Website: http://www.chivasom.com/thai-resident-offers

Maps: 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI

ชีวาศรมได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ดังนี้  

การจัดห้องพัก

  • จัดห้องพักไม่ให้ติดกันเพื่อลดระยะห่าง และเข้าพักได้สูงสุดห้องละ 2 ท่าน

การต้อนรับส่วนหน้า

  • เมื่อเดินทางมาถึงผู้มาเข้าพักจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน และเดินผ่านแผ่นเช็ดเท้าน้ำยาฆ่าเชื้อ 
  • รีสอร์ตจัดเตรียมแท่นน้ำยาล้างมือแบบไม่ต้องสัมผัส เพื่อให้ผู้เข้าพักทำความสะอาดมือเมื่อเดินทางมาถึงรีสอร์ต 
  • รีสอร์ตจัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้เข้าพักสวมใส่ พนักงานต้อนรับจะแนะนำผู้เข้าพักให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือตลอดการเข้าพัก รวมถึงการทิ้งขยะติดเชื้อลงในถังขยะติดเชื้อที่จัดไว้ในห้องพัก
  • งดการทักทายแบบจับมือหรือสวมกอด
  • ในการเช็กอิน ผู้เข้าพักต้องตอบแบบสอบถามการประเมินสุขภาพเกี่ยวกับอาการกลุ่มเสี่ยงหรือการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง (โดยกระทรวงสาธารณสุข) และลงทะเบียนไทยชนะ 
  • แนะนำบริการ E-newspaper แทนหนังสือพิมพ์ฉบับพิมพ์
  • รถบักกี้ภายในรีสอร์ทติดตั้งแผงกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสาร สามารถโดยสารได้ครั้งละไม่เกิน 2 ท่านต่อรถ 4 ที่นั่ง และ 4 ท่านต่อรถ 6 ที่นั่ง ในกรณีเดินทางมาด้วยกัน และไม่อนุญาตให้นั่งที่นั่งข้างคนขับ และทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังการรับส่ง
  • กระเป๋าเดินทางของผู้เข้าพักจะได้รับการฆ่าเชื้อก่อนส่งเข้าห้องพัก โดยเครื่อง UV Clean
  • พนักงานงดการเปิดประตูรถให้ลูกค้า และบริการนำไปจอด

ภายในห้องพัก

  • ก่อนลูกค้าเข้าพัก มีการทำความสะอาดห้องด้วยเครื่อง UV Care Deluxe Germ Terminator เพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • แม่บ้านทำการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกผ้าห่ม ปลอกหมอน และผ้าขนหนู ทุกวัน 
  • แม่บ้านทำความสะอาดผิวสัมผัสของเฟอร์นิเจอร์ด้วยเครื่อง UV Care และน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน
  • เครื่องนอนและผ้าทุกชนิดซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และทำการอบร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • ไม่จัดหนังสือ นิตยสาร ข้อมูลรีสอร์ต และเครื่องเขียนแบบใช้ต่อกันเพื่อลดการติดเชื้อ
  • มินิบาร์และผลไม้ต้อนรับจะเสิร์ฟโดยบัตเลอร์เมื่อลูกค้าเข้าห้องแล้ว เพื่อให้ผู้เข้าพักมั่นใจว่าลูกค้าได้รับมินิบาร์ชุดใหม่
  • จัดเตรียมถังขยะสำหรับขยะติดเชื้อภายในห้องพัก สำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย ผ้าเปียก และทิชชู่ที่ใช้แล้ว เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี
  • จัดเตรียมชุดหน้ากากอนามัย แผ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์แบบพกพา รวมถึงคู่มือการป้องกันการติดเชื้อให้ผู้เข้าพัก
  • กระเป๋าจะถูกส่งเข้าห้องพักหลังจากผู้เข้าพักเข้าห้องแล้วเท่านั้น
  • บริการรูมเซอร์วิส พนักงานจะไม่เข้าไปเสิร์ฟอาหารในห้องพัก

ห้องอาหาร

  • ลูกค้าจะต้องทำความสะอาดมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าห้องอาหารทุกครั้ง โดยห้องอาหารจัดเตรียมแท่นน้ำยาล้างมือแบบไม่ต้องสัมผัส หน้ากากอนามัย และซองใส่หน้ากากอนามัย (เมื่อต้องถอดเพื่อรับประทานอาหาร) ไว้ให้บริการ
  • ภายในห้องอาหารจะจัดโต๊ะอาหารแบบรักษาระยะห่างไม่เกิน 4 ที่นั่งต่อ 10 ตารางเมตร และอนุญาตให้นั่งโต๊ะละไม่เกิน 2 ท่าน ซึ่งเดินทางมาด้วยกัน
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ โต๊ะอาหาร และเบาะที่นั่ง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้งานทันที และทุก 1 ชั่วโมง
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เมนู หนังสือพิมพ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยเครื่อง UV Care หลังการใช้งานทุกครั้ง
  • ไม่วางอุปกรณ์การทานอาหารทิ้งไว้บนโต๊ะ พนักงานจะยกอุปกรณ์ทานอาหารออกมาให้ลูกค้าเมื่อเดินทางมาถึง และสัมผัสอุปกรณ์ให้น้อยที่สุด 
  • งดการให้บริการอาหารแบบบุฟเฟต์
  • การให้บริการรูมเซอร์วิส งดการเข้าเสิร์ฟอาหารในห้องพัก (ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถยกอาหารเองได้ พนักงานจะล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมถุงมือ และถุงเท้าป้องกันการติดเชื้อก่อนเข้าห้องพักแขก)
  • พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน อาทิ หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ถุงมือ ชุด PPE หรือผ้ากันเปื้อน ตามลักษณะงานตลอดเวลาปฏิบัติงาน
  • ลดปริมาณการเสิร์ฟอุปกรณ์และเครื่องปรุง อาทิ เกลือ พริกไทย ไม้จิ้มฟัน ในปริมาณสำหรับ 1 ท่าน และกำจัดปริมาณที่เหลือจากการใช้งาน

 

การให้บริการอื่นๆ ภายในรีสอร์ต

  • การจัดที่นั่งในบริเวณต่างๆ แบบรักษาระยะห่าง รวมถึงการรักษาระยะห่างในการให้บริการ อาทิ การเว้นระยะในยืนรอรับบริการ ให้ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร
  • การติดตั้งแผงกั้นระหว่างพนักงานและผู้รับบริการ ในบริเวณต้อนรับและห้องให้คำปรึกษา
  • การงดให้บริการทรีตเมนต์ที่สัมผัสบริเวณศีรษะและใบหน้า
  • คลาสออกกำลังกายแบบกลุ่ม ให้ใช้พื้นที่โล่งที่มีอากาศถ่ายเท จัดพื้นที่แบบรักษาระยะห่าง และจำกัดจำนวนผู้เรียนต่อครั้ง 
  • คลาสออกกำลังกายแบบตัวต่อตัว ให้ใช้พื้นที่โล่งหรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ผู้สอนและผู้เรียนรักษาระยะห่าง
  • ผู้ฝึกสอนจะสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือเฟซชิลด์ตลอดเวลาที่ทำการฝึกสอน และล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนและหลังให้บริการ
  • ทำความสะอาดพื้นหลังคลาสออกกำลังกายหลังการใช้งานทุกครั้ง (ทุกชั่วโมง)
  • คัดแยกเสื่อที่ใช้งานแล้ว และทำความสะอาดอุปกรณ์การออกกำลังกาย ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้งานทุกครั้ง
  • สระว่ายน้ำกลางแจ้งและสระว่ายน้ำในร่ม จัดทำลู่ในแบบรักษาระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และใช้บริการได้ลู่ละ 1 ท่าน 
  • ห้องทรีตเมนต์ ทำความสะอาดหลังการให้บริการทันที และเข้าทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมงตลอดวัน ด้วยเครื่อง UV Care
  • ลิฟต์โดยสาร ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง สามารถใช้โดยสารได้ครั้งละ 1 ท่าน หรือ 2 ท่านในกรณีเดินทางมาด้วยกัน 
  • ทำความสะอาดห้องน้ำส่วนกลางทุก 20 นาที
  • งดให้บริการตะกร้าช้อปปิ้งและการทดลองสินค้าในร้านค้าของรีสอร์ต
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์หลังการใช้งานทุกครั้ง เช่น เมนู ที่นั่ง เตียงอาบแดด ปากกา เป็นต้น 
  • ลูกค้าต้องทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการต่างๆ ในรีสอร์ต

พนักงาน

  • รีสอร์ตทำการฝึกอบรมและให้ความรู้กับพนักงานทุกคน ในการดูแลตนเองและการให้บริการ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ 
  • พนักงานที่ให้บริการโดยตรงกับผู้เข้าพักได้รับการตรวจและรับรองว่าปลอดเชื้อโควิด-19 
  • พนักงานทุกคนได้รับการตรวจอุณหภูมิก่อนเข้าทำงานทุกวัน
  • ชุดพนักงานได้รับการซักโดยน้ำยาฆ่าเชื้อและอบความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • พนักงานทุกคนจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ถุงมือ ชุด PPE ตามลักษณะงานตลอดเวลาปฏิบัติงาน
  • พนักงานทุกคนจะต้องปฏิบัติตามนโนบายเพื่อสุขอนามัย และการยับยั้งการแพร่เชื้อโรคอย่างเคร่งครัด เช่น การรักษาระยะห่าง การล้างมือก่อนและหลังให้บริการ เป็นต้น
  • ทุกแผนกต้องทำการคัดแยกขยะติดเชื้อ ได้แก่ หน้ากากอนามัย ถุงมือ ทิชชู่ เป็นต้น เพื่อการกำจัดอย่างถูกวิธี

 

รถลิมูซีน 

  • คนขับรถได้รับการตรวจอุณหภูมิร่างกายก่อนให้บริการทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในรถก่อนและหลังให้บริการ
  • จัดเตรียมน้ำยาล้างมือฆ่าเชื้อให้บริการแก่ผู้โดยสารบนรถ
  • จำกัดจำนวนผู้โดยสาร รถยนต์ไม่เกิน 2 ท่าน รถตู้ไม่เกิน 4 ท่าน 
  • ติดตั้งแผงกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสาร ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนั่งที่นั่งข้างคนขับ
  • คนขับรถสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการให้บริการ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising