×

สุดยื้อ! ยักษ์ใหญ่ Xiaomi ของจีนประกาศเลย์ออฟพนักงานอีกระลอก แม้ก่อนหน้านี้จะปลดออกไปแล้ว 1,900 คน

22.12.2022
  • LOADING...

สถานีโทรทัศน์ CNN เปิดเผยว่า Xiaomi หนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เริ่มปลดพนักงานในจีนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังต่อสู้กับวิกฤตการว่างงานครั้งใหญ่ โดยการตัดสินใจลดจำนวนพนักงานของบริษัทจีนยังมีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึง Meta และ Twitter ที่เลิกจ้างพนักงานหลายพันคน

 

ทั้งนี้ เพียงไม่นานหลังจากที่มีรายงานข่าวปลดแรงงาน ทางโฆษกของทาง Xiaomi ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการ ‘การเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรตามปกติและการปรับปรุงองค์กร’ ก่อนย้ำว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพนักงานน้อยกว่า 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

 

แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ แต่สื่อของรัฐหลายแห่งในจีนได้รายงานในสัปดาห์นี้ว่า Xiaomi จะเลิกจ้างงานหลายพันคนในหลายแผนก รวมถึงหน่วยธุรกิจสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต

 

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาง Xiaomi ได้ปรับลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ไปแล้ว ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 นี้ ทาง Xiaomi สามารถจัดการลดพนักงานลงแล้วเกือบ 1,900 คน จากจำนวนพนักงานประจำประมาณ 35,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประจำอยู่ที่ประเทศจีน อ้างอิงตามเอกสารทางการเงิน ภายในสิ้นเดือนกันยายน 

 

การปลดพนักงานยังมีขึ้นในช่วงที่รายรับของบริษัทลดลงเกือบ 10% ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากมาตรการสกัดกั้นไวรัสโควิดที่ค่อนข้างเข้มงวดของจีน และความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่ลดลง โดยยอดขายจากสมาร์ทโฟนซึ่งคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมดของ Xiaomi ลดลงแล้ว 11%

 

สำหรับการปลดพนักงานของสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังดิ้นรนกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินนโยบายจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่เข้มงวด ส่งผลให้โรงงานและกิจกรรมของผู้บริโภคหยุดชะงัก ธุรกิจต่างๆ จึงพลอยได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

ทั้งนี้ ตามสถิติล่าสุดของรัฐบาลจีน อัตราการว่างงานในเขตเมือง ซึ่งเป็นมาตรวัดการจ้างงานอย่างเป็นทางการที่กว้างที่สุดของรัฐบาลจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.7% ในเดือนพฤศจิกายน แตะระดับสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน 

 

ขณะที่โอกาสในการทำงานสำหรับคนหนุ่มสาวชาวจีนนั้นค่อนข้างมืดมนเป็นพิเศษ อัตราว่างงานของผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี แตะระดับ 17.1% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ 19.9%

 

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สถานการณ์อาจเลวร้ายลงในปีหน้า เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยราว 11.6 ล้านคนตบเท้าเดินหน้าเข้าสู่ตลาดงาน ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่อ้างอิงจากกระทรวงศึกษาธิการเมื่อเดือนที่แล้ว

 

แม้ว่าอัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการของจีนจะไม่ได้แบ่งข้อมูลตามอุตสาหกรรม แต่ผลลัพธ์ของบริษัทและการสำรวจของภาคเอกชน ชี้ให้เห็นว่าตำแหน่งงานในตลาดทั่วทั้งเศรษฐกิจกำลังหายไป และอาจไม่มีที่ไหนที่มองเห็นวิกฤตงานได้มากไปกว่าภาคเทคโนโลยี โดยอุตสาหกรรมที่ครั้งหนึ่งเคยดาวรุ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากความพยายามของรัฐบาลจีนจัดระเบียบบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Xiaomi ซึ่งนอกจาก Xiaomi แล้ว บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Alibaba (BABA) และ Tencent กลับไม่มีการเติบโต แถมยังต้องเผชิญกับการหดตัวของรายได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ

 

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทาง Alibaba ได้ลดจำนวนพนักงานลงไปแล้วมากกว่า 15,000 คน ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน Tencent สั่งปลดพนักงานไปประมาณ 4,000 คน 

 

นักวิเคราะห์ประเมินว่า การปลดพนักงานอาจเป็นเรื่องปวดหัวอย่างมากสำหรับรัฐบาลจีน ซึ่งระบุว่าการป้องกันการสูญเสียงานจะเป็นนโยบายที่มีความสำคัญสูงสุดในปีหน้า

 

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จีนต้องเผชิญกับการประท้วงต่อต้านครั้งแรกในรอบหลายสิบปี เพื่อกดดันให้รัฐบาลผ่อนคลายนโยบายสกัดกั้นการระบาดของโควิดซึ่งเข้มงวดเกินไป มีการเดินขบวนบนท้องถนนในหลายเมือง กระทั่งรัฐบาลจีนยอมถอย ประกาศผ่อนคลายการใช้มาตรการคุมเข้มโควิดในช่วงต้นเดือนธันวาคม 

 

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนยังเผชิญความเสี่ยงจากภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยในเดือนกรกฎาคม ผู้ซื้อบ้านชาวจีนทั่วประเทศพร้อมใจออกโรงขู่ว่าจะหยุดชำระหนี้จำนองสำหรับโครงการบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ขณะที่มีการปะทะกันอย่างรุนแรงยังปะทุขึ้นในภาคกลางของจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังผู้ฝากเงินหลายพันคนไม่สามารถเข้าถึงเงินออมที่ฝากไว้กับทางธนาคารในชนบทหลายแห่งทั่วประเทศนี้ได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising