ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นจีนอย่าง China A50 ปรับตัวลดลง 6 วันทำการติดต่อกัน ลดลงกว่า 5% ขณะที่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ซึ่งมีบริษัทจีนจดทะเบียนอยู่จำนวนมาก ก็ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ลดลงไปกว่า 6% (ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันศุกร์ที่ผ่านมา)
ขณะที่ดัชนี Hang Seng China Enterprises (HSCEI) ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงลดลงประมาณ 20% จากจุดพีคเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ดิ่งลงหนักที่สุดคือ Meituan และ Tencent Holdings ซึ่งลดลงประมาณ 40% และ 25% ตามลำดับ
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม แต่หลังจากนั้นนักลงทุนต้องผิดหวังกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าที่คาดและกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หุ้นจีนจำนวนหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกงขยับเข้าใกล้ภาวะตลาดหมีมากขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังสั่นคลอนไม่แข็งแกร่ง บวกกับความตึงเครียดทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้น และเงินหยวนที่อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนตัดสินใจชะลอการลงทุน
Marvin Chen นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า การฟื้นตัวภายในประเทศของจีนยังไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้ และยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความกังวลต่อการชะลอตัวทั่วโลก โดยตลาดอาจเหนื่อยล้าจากการรอคอยตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การผ่อนคลายทางการเงินหรือการผ่อนคลายความตึงเครียดของสหรัฐฯ และกำลังมองหาการเติบโตที่ในพื้นที่อื่นๆ
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้จะใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ประมาณ 5% ซึ่งตรงกันข้ามกับการคาดการณ์อีกส่วนหนึ่งที่มองว่าแม้จะมีการขยายตัวอย่างมากในช่วงต้นปี แต่กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในจีนยังคงลดลงในช่วง 4 เดือนแรกของปี ถือเป็นการตอกย้ำถึงดีมานด์ที่กำลังชะลอตัว และภาวะเงินฝืดในภาคการผลิตของจีน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีดัชนี HSCEI ลดลงมากกว่า 6% ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่แย่ที่สุดในเอเชีย โดยตลาดหุ้นหลักที่ย่ำแย่ที่สุดในเอเชียคือดัชนี SET ของไทย
ในขณะนี้ตลาดหุ้นจีนเดินหน้าปรับตัวลดลง ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นจีนในพอร์ตของตนเอง ขณะที่หลายสถาบันรวมถึง Citigroup Inc. ปรับลดการจัดอันดับน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีนลงสู่ระดับปานกลาง ขณะที่ Christopher Wood นักยุทธศาสตร์ของ Jefferies Financial Group Inc. ปรับลดน้ำหนักหุ้นจีนลงถึงสองครั้งภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์
มูลค่าการซื้อขายของหุ้นแผ่นดินใหญ่ยังคงต่ำกว่า 1 ล้านล้านหยวน (1.41 แสนล้านดอลลาร์) เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์ โดยเน้นให้เห็นถึงการขาดแรงจูงใจในการลงทุนในตลาดหุ้นจีน โดย Vey-Sern Ling, Managing Director at Union Bancaire Privee กล่าวว่า นักลงทุนจะกลับมาอย่างมีนัยสำคัญก็ต่อเมื่อความกังวลเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ลดลงและมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในวงกว้าง
อ้างอิง: