วิกฤตอสังหาจีน กำลังส่งแรงกระแทกไปยังกลุ่มชนชั้นกลางในประเทศกว่า 400 ล้านคนในหลากหลายรูปแบบ ไล่ตั้งแต่การปรับลดรายจ่ายประจำเดือน การเลื่อนแผนแต่งงานและแผนอื่นๆ ในชีวิต รวมถึงการหยุดผ่อนชำระค่างวดบ้านที่พวกเขาได้ใช้เงินออมทั้งชีวิตซื้อเอาไว้
ตลาดอสังหาของจีนมีความแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ตรงที่บ้านใหม่จะถูกขายก่อนมีการก่อสร้าง และผู้ซื้อจะต้องเริ่มผ่อนค่างวดทันทีหลังทำการจอง ระบบที่ว่านี้ทำให้บริษัทผู้พัฒนาโครงการมีกระแสเงินสดไปเริ่มต้นโปรเจกต์ได้ต่อไป ซึ่งส่งผลให้ภาคอสังหาของจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะเผชิญกับวิกฤต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- คุมวิกฤต! ธนาคารของจีนประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 1.6 แสนล้านบาท สำหรับเข้าซื้อ ‘อสังหาริมทรัพย์’ ที่ไปต่อไม่ไหว
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
- 10 กองทุนหุ้นจีน ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน แกร่งสุด
ส่วนหนึ่งของวิกฤตในภาคอสังหาจีนเกิดจากการที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง นำกระแสเงินสดของตัวเองไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจหลัก เมื่อธุรกิจเหล่านั้นมีปัญหาในช่วงโควิดก็ทำให้บริษัทอสังหาขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถก่อสร้างโครงการต่างๆ ให้แล้วเสร็จได้ เมื่อโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่มีความคืบหน้า ผู้ซื้อบ้านจำนวนมากก็ขาดความมั่นใจและเริ่มหยุดผ่อนชำระค่างวด
ปีเตอร์ ชายชาวเมืองเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน เล่าว่า เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคา 2 ล้านหยวนในโครงการของ China Aoyuan Group โดยในทุกๆ เดือนเขาจะต้องใช้เงินถึง 90% ของรายได้ทั้งหมดเพื่อผ่อนชำระค่าบ้านที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างหลังนี้
ปีเตอร์กล่าวว่า ภาระการผ่อนบ้านทำให้เขาต้องล้มเลิกแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง รวมถึงแผนที่จะซื้อรถในฝันอย่าง BMW 5 Series การที่ไม่รู้ว่าบ้านของเขาจะสร้างเสร็จเมื่อไร หรือเงินที่เขาผ่อนไปจะสูญเปล่าหรือไม่ ทำให้ในท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจหยุดผ่อนค่าบ้าน
ปัจจุบันมีชาวจีนนับแสนรายใน 90 เมืองทั่วประเทศที่ตัดสินใจหยุดผ่อนชำระค่าบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จเหมือนกับปีเตอร์ ทำให้ทางการจีนอยู่ระหว่างเข้ามาดูแลผลกระทบนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมและความมั่นคงทางสังคม โดย Bloomberg ประเมินว่า มูลค่าสินเชื่อบ้านที่มีการหยุดผ่อนชำระในขณะนี้มีปริมาณรวมกันสูงถึง 2 ล้านล้านหยวน
Hong Hao อดีตนักกลยุทธ์ด้านจีนของ BOCOM International Holdings ระบุว่า ปัญหาการหยุดผ่อนชำระค่าบ้านกำลังส่งผลต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีน และอาจจะส่งผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีนในภาพรวมได้ เนื่องจากชนชั้นกลางของจีนส่วนใหญ่มองว่าการเป็นเจ้าของอสังหา เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความมั่งคั่งของพวกเขา และหลายคนไม่เคยคาดคิดว่าราคาบ้านของพวกเขาจะปรับตัวลดลง
ลี่ พนักงานบริษัทด้านไอทีวัย 26 ปี เล่าว่า เขามีภาระต้องผ่อนบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จในโครงการของ Evergrande ที่ซื้อไว้ในเมืองอู่ฮั่นราว 4,000 หยวนต่อเดือน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของเงินเดือน โดยเขาคาดหวังว่าการมีบ้านจะทำให้เขาเริ่มสร้างครอบครัวด้วยการแต่งงานได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาต้องชะลอแผนการแต่งงานออกไปก่อน
อ้างอิง: