จีนโต้กลับสหรัฐฯ! ประกาศขึ้นภาษีถ่านหิน – LNG – น้ำมัน – สินค้าเกษตร ยกแผง 10-15% ทันทีที่สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% ซึ่งมีผลในช่วงเที่ยงของวันนี้ หลังทรัมป์เมินผ่อนปรนจีน ไม่เลื่อนให้ 30 วันเหมือนแคนาดา-เม็กซิโก
วันนี้ (4 กุมภาพันธ์) รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังของจีน ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ โดยขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ เพื่อตอบโต้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากร 10% กับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งมีผลช่วงเวลา 12.00 น. ของวันนี้ โดยภายใต้มาตรการใหม่ กำหนดอัตราภาษี 15% สำหรับถ่านหินบางประเภทและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สินค้าเกษตร รวมถึงภาษี 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร รถยนต์ขนาดใหญ่ และรถกระบะ ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังออกมาตรการควบคุมการส่งออกวัตถุดิบสำคัญ เช่น วัสดุที่เกี่ยวข้องกับทังสเตนที่ใช้ในอุตสาหกรรมและการป้องกันประเทศ รวมถึงวัสดุที่เกี่ยวข้องกับเทลลูเรียม ซึ่งสามารถนำไปผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ได้
กระทรวงยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างสอบสวนบริษัทสัญชาติอเมริกัน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Illumina และ PVH ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Calvin Klein และ Tommy Hilfiger โดยระบุว่าบริษัทเหล่านี้ “ละเมิดหลักการซื้อขายในตลาดปกติ” ซึ่งก่อนหน้านี้มีประเด็นข้อหาการใช้ผ้าฝ้ายจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกของจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จีนขู่ขึ้นบัญชีดำบริษัทจากสหรัฐฯ
นอกจากนี้ สำนักงานกำกับดูแลตลาดของจีนระบุว่า กระทรวงกำลังดำเนินการสอบสวน Google ในข้อกล่าวหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดอีกด้วย
เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจากแคนาดา-เม็กซิโก 25% ออกไป 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทรัมป์ออกมาระบุว่า เขาจะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากที่ประกาศว่าจะมีการส่งทหาร 10,000 นายไปยังชายแดนสหรัฐฯ ทันที เพื่อป้องกันการค้ายาเสพติดจากเม็กซิโก
โดยทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า ในช่วงที่รอการขึ้นภาษีจะมีการเจรจาเกี่ยวกับภาษีดังกล่าว โดยมี มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนระดับสูงของเม็กซิโก เป็นผู้นำในการเจรจาดังกล่าว การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น 2 วันหลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10%
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลาเดีย ไชน์บัม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และมาตรการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร แต่ไม่ได้เปิดเผยอัตราภาษี ขณะที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้มาตรการจัดเก็บภาษีของทรัมป์ที่ประกาศไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และจีนกล่าวว่าจะโต้แย้งมาตรการจัดเก็บภาษีกับองค์การการค้าโลก
ทรัมป์และไชน์บัมพูดคุยกันในเช้าวันจันทร์ ก่อนที่จะมีการประกาศหยุดการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งคู่กล่าวว่า กองกำลังป้องกันประเทศของเม็กซิโกที่ส่งไปยังชายแดนสหรัฐฯ จะมีภารกิจในการหยุดยั้งการค้าขายยาเสพติดจากเม็กซิโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารโอปิออยด์ที่อันตรายถึงชีวิต
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเขียนด้วยว่า กองกำลังของเม็กซิโกจะมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการไหลบ่าเข้ามาของ “ผู้อพยพในประเทศของเรา”
ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
ทันทีที่มีข่าว หุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเปิดตลาดในแดนลบเมื่อวันจันทร์ ฟื้นตัวกลับมาจากข่าวการหยุดจัดเก็บภาษีสินค้าจากเม็กซิโก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones ฟื้นตัวขึ้น โดยปิดตลาดวันนี้ที่ 44,421.91 จุด ลดลง 122.75 จุด หรือ -0.28% หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าจะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดวันนี้ที่ 5,994.57 จุด ลดลง 0.76% และดัชนี NASDAQ Composite ปิดตลาดวันนี้ที่ 19,391.96 จุด ลดลง 1.2%
กองทุน iShares MSCI Mexico ETF ซึ่งลงทุนในหุ้นของเม็กซิโก ฟื้นตัวขึ้น และปิดตลาดสูงขึ้น 2% สกุลเงินเปโซเปลี่ยนจากสกุลเงินที่ผลตอบแทนแย่ที่สุดเป็นสกุลเงินที่ทำกำไรได้ดีที่สุดในบรรดาสกุลเงินหลัก สกุลเงินดอลลาร์แคนาดาก็ฟื้นตัวขึ้นมาได้เช่นกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 4.53%
แม้ว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลให้ตลาดทองคำได้รับผลกระทบตามปกติ แต่ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นเนื่องมาจากอุปสงค์ในสินทรัพย์ที่หลบภัย (Safe Haven) ซึ่งขับเคลื่อนโดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของทรัมป์
ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น 0.8% สู่ระดับ 2,818.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 05.00 น. หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,830.49 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านั้น
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/live-blog/2025-02-03/trump-tariffs-live-updates?srnd=homepage-as
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-02/dollar-surges-stocks-set-to-fall-on-trump-tariffs-markets-wrap?srnd=homepage-asia
- https://www.cnbc.com/2025/02/03/trump-tariffs-mexico-canada-china-sheinbaum-responds.html
- https://www.cnbc.com/2025/02/04/china-levies-tariffs-on-select-us-imports-starting-feb-10.html?_trms=a7e046d65ed53a73.1738659778451