ทางการจีนเปิดเผยความก้าวหน้าในการขยายพื้นที่ขอบเขตและสถานการณ์การประยุกต์ใช้งานของภาคอุตสาหกรรม 5G และอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสองอุตสาหกรรมหลักที่กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเสริมสร้างอำนาจจีนให้ก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัล
ความเห็นดังกล่าวระบุอยู่ในรายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศที่จัดทำโดย China Academy of Industrial Internet และกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Ministry of Industry and Information Technology: MIIT) ซึ่งเผยแพร่ในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ขอบเขตการขยายงานชุดระลอกใหม่นี้จะครอบคลุมตั้งแต่การเฝ้าระวังโลจิสติกส์, บริการด้าน Virtual ต่างๆ, ความร่วมมือระหว่างบริษัทองค์กร, การซ่อมแซมบำรุงรักษา ไปจนถึงความสามารถในการย้อนตามรอยการผลิต และระบุชื่อ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายในการส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรม 5G และอินเทอร์เน็ตภายในประเทศจีน ได้แก่ ปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมเคมี, อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง, อุตสากรรมท่าเรือ, อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
อย่างไรก็ตาม แม้จีนจะมีความคืบหน้า แต่ เซียงหลี่กัง (Xiang Ligang) ผู้อำนวยการองค์กร Information Consumption Alliance ชี้ว่าอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตและ 5G ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้น ทำให้ยังมีพื้นที่ในการพัฒนาและทดสอบอีกมาก ดังนั้น จีนยังจำเป็นต้องให้การสนับสนุนเพื่อเร่งเครื่องพัฒนาอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตและ 5G ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้ก้าวเข้าสู่ประเทศชั้นนำของโลกในยุคดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ทางด้าน China Foreign Exchange Committee หรือคณะกรรมการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจีนในสังกัดของธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ลุกขึ้นออกโรงเรียกร้องให้สถาบันการเงินทั่วประเทศจัดการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ต้องการเข้าไปซื้อขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศ ทั้งสำหรับการเทรดของสถาบันเองหรือการเทรดสำหรับลูกค้า รวมถึงแนะนำให้ธนาคารติดตามการซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน และปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงอย่างจริงจังและเข้มงวด เพื่อจำกัดปริมาณการเทรด
โดยคำเตือนบวกกับคำแนะนำในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ค่าเงินหยวนไต่ระดับปรับตัวแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นมุมมองของรัฐบาลจีนซึ่งไม่สบายใจต่อค่าเงินหยวนที่ปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทางกระทรวงการคลังจีนได้เปิดเผยรายได้ของรัฐจากการขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในเดือนตุลาคม ปรับตัวลดลงอย่างเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยมูลค่ายอดขายที่ดินของรัฐบาลจีนในเดือนตุลาคม ลดลง 13.14 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลงมาที่ 573,700 ล้านหยวน และลดลงจากเดือนกันยายนก่อนหน้าที่ 11.15 เปอร์เซ็นต์
เมื่อพิจารณาในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ รายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลจีนเพิ่มขึ้น 6.1เปอร์เซ็นต์ เป็น 5.9371 ล้านล้านหยวน ซึ่งทางรายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า แม้จะโตได้ แต่ก็เป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่มีการเติบโต 8.7 เปอร์เซ็นต์
สาเหตุหลักของยอดขายที่ลดลงเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการจำกัดการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อป้องกันปัญหานี้ แต่การกระทำดังกล่าวกลับเป็นการบีบให้รัฐบาลท้องถิ่นออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินมาใช้เป็นทุนสนับสนุนโครงการฟื้นฟูโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่
โดยมูดี้ส์ระบุว่า แม้จะไม่ใช่ทุกมณฑลที่พึ่งพารายได้จากการขายที่ดิน แต่ความไม่ทั่วถึงก็ทำให้การพัฒนาของแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน กระทบต่อภาพรวมในการขยายตัวเติบโตของจีน
อ้างอิง:
- https://www.globaltimes.cn/page/202111/1239540.shtml
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-11-21/china-fx-committee-urges-banks-to-cap-speculation-as-yuan-surges
- https://www.investing.com/news/economy/chinas-land-sales-slump-for-4th-month-as-property-woes-worsen-2684969
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP