ผลการวิจัยจากศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (CREA) และองค์กรติดตามพลังงานโลก (GEM) เปิดเผยว่า จีนอนุมัติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 106 กิกะวัตต์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงกว่าปี 2021 ถึง 4 เท่า และสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015
รายงานระบุว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา จีนได้เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีกำลังการผลิต 50 กิกะวัตต์ทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับระดับของปีที่ผ่านมา โดย ฟลอรา แชมเปนัวร์ (Flora Champenois) นักวิเคราะห์จาก GEM เปิดเผยว่า ความเร็วในการดำเนินการด้านโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีนตลอดปี 2022 นั้น ‘ไม่ธรรมดา’ โดยมีโครงการเกิดใหม่เพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับใบอนุญาต การสนับสนุนเงินทุน และดำเนินการก่อสร้างภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน
จำนวนกำลังการผลิตใหม่ที่เชื่อมต่อกับกริดโครงข่ายไฟฟ้าได้ชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากการอนุมัติใหม่ลดลงในช่วงปี 2017-2020 แต่คาดว่าจะดีดตัวขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากจีนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนพลังงาน โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ๆ ที่เพิ่งได้รับการอนุมัตินั้นส่วนใหญ่จัดตั้งขึ้นเพื่อมาสนับสนุนกำลังการผลิตไฟฟ้าขั้นต่ำ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับเสถียรภาพของโครงข่ายพลังงาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2021 จีนประสบปัญหาไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนถ่านหิน ทำให้บ้านเรือนและโรงงานหลายพันแห่งขาดแคลนไฟฟ้าใช้ ธุรกิจได้รับความเสียหาย ขณะภัยแล้งที่ยาวนานในปีที่แล้วก็ทำให้การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและการปันส่วนไฟฟ้าลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้น ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า จีนอาจไปไม่ถึงเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนที่ตั้งไว้ โดยก่อนหน้านี้ จีนได้ตั้งเป้าว่าจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงเพดานสูงสุดภายในปี 2030 และจะเข้าสู่ภาวะความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2060
แฟ้มภาพ: Costfoto / Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง: