ไฟป่าไหม้ทั้งดอยจระเข้ เชียงราย หวั่นเดือดร้อนประชาชน ระดมกำลังเข้าช่วย เชื่อมีคนลอบเผาป่า เร่งหาตัวผู้ทำผิด

ช่วงเย็นวานนี้ (14 เม.ย.) เกิดเหตุไฟไหม้ป่าทั้งดอยจระเข้ จังหวัดเชียงราย เป็นวงกว้าง ไฟได้ลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าสกัดไฟทั้งคืน

ดอยจระเข้เป็นขุนเขาที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอเมืองเชียงรายกับอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยไฟได้ค่อยๆ โหมลุกไหม้อย่างหนักบนภูเขาสูงในฝั่งตำบลท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย โดยมองเห็นเปลวไฟในยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน ก่อนที่ไฟจะลามข้ามเขตยอดเขาไปทางตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน ทำให้ภูเขาทั้งลูกแดงฉานไปด้วยเปลวไฟ ขณะที่เบื้องล่างเขตอำเภอแม่จันเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน โรงพยาบาลแม่จัน วัด ฯลฯ ที่อยู่ในเขตหมู่บ้านแม่เฟือง หมู่ 5 หมู่บ้านป่าตึง บ้านผาตั้ง หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่บ้านป่ากุ่ม หมู่ 8 ตำบลป่าตึง ที่เป็นชุมชนที่หนาแน่น

นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน สั่งการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสา เข้าสกัดไฟป่าที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้างกินพื้นที่หลายหมู่บ้าน นำกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าแม่จันดับไฟ ตรวจสกัดกั้นและทำแนวกันไฟ ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา หวั่นไฟลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ รายงานว่าวันนี้ (15 เม.ย) พลตรี บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เข้ามาดูแลปฏิบัติการดับไฟดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยมอบหมายให้ทางหน่วยทหารโดย พลตรี สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดเชียงราย และพันเอก ชาตรี สงวนธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังเข้าประสานงานร่วมกับ นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เพื่อเร่งสกัดกั้นไฟป่าดังกล่าวไม่ให้ขยายวงลามสู่เขตชุมชนหรือไปยังเขตป่าของอำเภอแม่ฟ้าหลวงที่อยู่ข้างเคียง โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้ไฟลามไปถึงเขตหมู่บ้านต่างๆ ให้ได้

ด้านนางวันดีได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครดับไฟป่าจำนวนประมาณ 800 คน ตั้งจุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ ณ วัดป่าตึง ตำบลป่าตึง เพื่อเตรียมระดมกำลังเข้าไปดับไฟอย่างเร่งด่วนเมื่อถึงเวลาฟ้าสาง เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปดับได้ในช่วงเวลากลางคืน เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้ทางฝ่ายทหารยังได้จัดเตรียมกำลังพลและเฮลิคอปเตอร์ MI-17 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าสนับสนุน ซึ่งทางอำเภอแม่จันได้เตรียมอ่างเก็บน้ำถ้ำเสือ หมู่ 8 ตำบลป่าตึง ที่มีความลึกประมาณ 3-5 เมตรรองรับแล้ว ขณะเดียวกันมีการตั้งศูนย์สื่อสารที่หมู่ 5 ตำบลป่าตึง เพื่อประสานงานทุกฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีทั้งชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อาสาสมัคร ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ฯลฯ มีรวมกันประมาณ 1,000 คน เริ่มเข้าดับไฟป่าและตั้งแนวป้องกันด้วยรถดับเพลิงตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ต่อไป

ส่วนสถานการณ์พื้นที่อื่นๆ พบว่าเขตอำเภอเมืองเชียงราย พื้นที่ป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านผาลั้ง หมู่ 4 ตำบลห้วยชมภู ถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 36 ไร่ หลังจาก นายประจักษ์ บัวแก้ว หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลำน้ำกก พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอาสาสมัครชาวบ้านออกปฏิบัติการดับไฟอย่างหนัก และพบว่าไฟยังคงคุกรุ่น เนื่องจากเป็นที่สูงชัน ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและจัดทำแนวกันไฟเอาไว้

ด้าน นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) นายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าขุนแจ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เจดีย์ใหม่ ออกดับไฟป่าเขตทิศตะวันตกของบ้านป่าครั่ง หมู่ 14 ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำการบินบรรทุกน้ำโปรยจำนวน 6 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 500 ลิตร สามารถทำการดับไฟได้จำนวน 30 ไร่และไฟยังคุกรุ่นอยู่ พื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้าพบว่าไฟยังลุกไหม้ใกล้วัดพระธาตุแม่เจดีย์ หมู่บ้านแม่เจดีย์ใหม่ หมู่ 3 ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ แต่ นายอนันต์ สมุทรารินทร์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ระดมกำลังกันดับไฟได้

พลตรี บัญชา ยังได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายตำรวจและทหารช่วยติดตามหาตัวคนกระทำความผิดด้วยการเผาป่าเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีอย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นสถานการณ์แปลกที่เกิดไฟป่าทั่วจังหวัดตามอำเภอที่มีขุนเขาต่างๆ ขึ้นพร้อมกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเชื่อว่าเกิดจากฝีมือคนลักลอบเผา เพราะไม่ได้มีฝนตกจนฟ้าผ่าหรืออื่นๆ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ผลกระทบจากการเผารอบทิศทางดังกล่าวทำให้สภาพอากาศแย่ลง โดยมีปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันในอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนรวมในที่สุด

ด้านหน่วยทหารพรานที่เข้าสนับสนุนโดย ร้อย.ทพ.3108 ฉก.ทพ.31 ทำการลาดตระเวนตรวจจุดเกิดไฟไหม้ พบว่าได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและเข้าเผาไหม้ป่าและพื้นที่ทางการเกษตรเขตหมู่บ้านแม่เฟือง หมู่ 5 หมู่บ้านป่าตึง บ้านผาตั้ง หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่บ้านป่ากุ่ม หมู่ 8 ตำบลป่าตึง มีพื้นที่เสียหายแล้วประมาณ 1,000 ไร่