×

เชียงรายแถลง ชายทำงานผับติดโควิด-19 เพิ่ม หลังเพื่อนที่กลับจากเมียนมามาค้างคืนด้วย พบเที่ยวสถานบันเทิง-ไปงานฟาร์มเฟส-ทำงานผับ

โดย THE STANDARD TEAM
03.12.2020
  • LOADING...
เชียงรายแถลง ชายทำงานผับติดโควิด-19 เพิ่ม หลังเพื่อนที่กลับจากเมียนมามาค้างคืนด้วย พบเที่ยวสถานบันเทิง-ไปงานฟาร์มเฟส-ทำงานผับ

วันนี้ (3 ธันวาคม) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้แถลงความคืบหน้า ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติม โดยจากกรณีผู้หลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติจากประเทศเมียนมา ขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 7 ราย โดยเป็นผู้หลบหนีทางช่องทางธรรมชาติ 3 ราย (ที่มีรายงานไปแล้วก่อนหน้านี้) ผู้ที่เดินทางเข้ามาตามระบบ 3 ราย (ไม่มีไทม์ไลน์ และเพิ่งตรวจพบเชื้อวันที่ 2 ธันวาคม) และล่าสุดคือ ผู้ที่ติดเชื้อจากเพื่อนที่หลบหนีเข้ามาจากช่องทางธรรมชาติ ซึ่งมีประวัติการเดินทางและการทำงานเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก

 

สำหรับผู้ป่วยรายที่ 7 เป็นเพศชาย อายุ 28 ปี ทำงานที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย มาโดยตลอดและไม่มีอาการป่วย แต่มีประวัติเกี่ยวข้องกับสาวที่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งรายนี้จะต้องแยกแยะว่าทำให้เกิดความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำในจุดใดบ้าง เพราะพบว่าทำงานในผับ และยังเดินทางด้วยรถสาธารณะ

 

สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 7 มีดังต่อไปนี้

 

  • 28 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อนที่เดินทางมาจากเมียนมา จำนวน 3 คน ซึ่ง 3 คนดังกล่าวต่อมาพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่จังหวัดพะเยาและเชียงใหม่ ได้มาพักค้างคืนด้วย จากนั้นช่วงเย็น ชายวัย 28 ปี มาทำงานร้านอาหารตามปกติ
  • 29 พฤศจิกายน ช่วงเช้าพักผ่อนกับเพื่อนที่ติดโควิด-19 ที่ห้องพัก ประมาณ 17.00 น. ช่วงเย็นไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล จนถึงเวลา 23.00 น. แล้วเที่ยวต่อสถานบันเทิงในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและสังสรรค์กันต่อ ถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน
  • 30 พฤศจิกายน เวลา 12.00 น. เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวร่วมกับเพื่อนกลุ่มเดิมและเที่ยวด้วยกัน
  • 1 ธันวาคม เวลา 08.00 น. เดินทางกลับเชียงรายด้วยรถโดยสารประจำทาง ช่วงเย็นไปทำงานร้านอาหารตามปกติ
  • 2 ธันวาคม ทราบข่าวว่าเพื่อนตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงไปขอตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นได้รับการส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงราย

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising