×

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยืนยันไม่ใช่เด็กใคร โตมาด้วยตัวเอง พร้อมลุยตรวจหลักฐานเส้นทางการเงินเอี่ยวตำรวจยศใหญ่ที่ทนายตั้มส่งให้ภายใน 30 วัน

โดย THE STANDARD TEAM
28.03.2024
  • LOADING...
ทนายตั้ม จรูญเกียรติ

วันนี้ (27 มีนาคม) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำข้อมูลขบวนการรับส่วยและเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ส่งให้กับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะนำส่งพยานหลักฐานที่ได้รับจากทนายตั้มไปให้เจ้าหน้าที่ บก.ปปป. และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง และจะดำเนินการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ เพื่อลงรายละเอียดในสำนวนการสอบสวน แต่สำนวนนี้จะยังไม่ส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากทนายตั้มยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 และ 149   

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ไม่ได้กังวลเรื่องพยานหลักฐาน เพราะเชื่อว่าเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหากมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

 

วันนี้ถือเป็นเรื่องดีที่ทนายนำข้อมูลมาให้ แม้ว่าทางตำรวจจะมีข้อมูลจากคดีเก่าอยู่แล้วบางส่วน แต่เป็นโอกาสดีที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะตำรวจก็ต้องการกวาดบ้านตัวเอง ใครทำผิดก็ต้องออกไป

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกมิติ ทั้งเส้นทางการเงิน 30 เส้น รวมถึงตัวย่อนายตำรวจต่างๆ ที่ถูกพาดพิงด้วย 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสสังคมบอกว่า ตนเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสายตรงของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีผลต่อการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่า “ตนไม่เคยเลียตูดนาย ไม่ได้เป็นเด็กใคร ทำตามหน้าที่ ไม่ใช่เด็กของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ตนเองทำงานและมาถึงจุดนี้ได้ด้วยความสามารถของตนเอง ทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอดและมีอุดมการณ์ของตนเอง ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง”

 

ด้านษิทรากล่าวว่า ตนเองมาในฐานะประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงนำเอกสารหลักฐานที่ประกอบด้วย แชตสนทนา สลิปโอนเงิน และบัญชีธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งเส้นทางการเงินและเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าเว็บพนันออนไลน์ของคชาชาญไปณัฐพงษ์ และที่มีการโอนต่อไปยังตำรวจหลายนาย รวมถึงอดีตอุปนายกสมาคมนักข่าวแห่งหนึ่ง มามอบให้กับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ซึ่งตนจะรอดูการทำสำนวนว่าจะมีการตรวจสอบรายละเอียดตามที่ตนได้ร้องขอในวันนี้หรือไม่ 

 

วันนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 และ 149 เป็นเพียงการนำเอกสารหลักฐานมาให้ตรวจสอบในกรอบระยะเวลา 30 วัน จากนั้นตนจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าก่อนพิจารณาดำเนินการในลำดับต่อไป ซึ่งเบื้องต้นอยากให้ทางตำรวจตรวจสอบข้อมูลที่นำมาให้ก่อนว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ก่อนขอเอกสารฉบับจริงจากทางธนาคารเพื่อดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่มีเจตนาออกมาป่วน

 

ษิทรากล่าวต่อว่า ยอมรับว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาจากสายลับที่เป็นตำรวจ จึงส่งข้อมูลมาให้ตนเอง เพราะทนกับระบบไม่ได้ แต่ข้อมูลที่ได้รับมาไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากมีผู้นำข้อมูลที่พบว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ทำผิดกฎหมาย ตนเองก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน และหลังจากนี้ตนเองจะไม่ขอให้สัมภาษณ์ถึง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ อีก

 

ส่วนกรณีที่วันพรุ่งนี้ (29 มีนาคม) ทีมทนายความของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ จะไปฟ้องร้องตนเองที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานหมิ่นประมาทนั้น เบื้องต้นได้รับทราบแล้วและรู้ว่าใครคือทีมทนาย ซึ่งบุคคลดังกล่าวเคยฟ้องร้องกับตัวเองมาแล้ว 6 คดี แต่ศาลยกฟ้องทุกคดี 

 

ภายหลังจากที่ษิทราให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วได้กล่าวว่า จะเชื่อมั่นใน พล.ต.ต. เจริญเกียรติ เพิ่มขึ้นเป็น 70% และจะเข้ามาให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ เกี่ยวกับพยานหลักฐานอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising