วันนี้ (23 มีนาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างพรรค พปชร. นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นําโดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ก็กินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส. และนักการเมืองก็เข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงกินข้าวเมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) อาจเป็นประเด็นเพราะอนุทินมา และเขาเป็นพรรคใหญ่ ก็มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามากินข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงกินข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครจะได้ ส.ส. เท่าไร ค่อยมาดูกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการส่งสัญญาณการจับมือกันในอนาคตหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ตนว่าสัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทํางานร่วมกันมาก็ราบรื่นดี สามารถประสานงานกันได้ด้วยดี ก็ไม่อยากเปลี่ยนหรอก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การจับมือในอนาคตจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ความจริงพรรค รทสช. ก็ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ
“พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ ความจริงทุกพรรคการเมืองจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจะทำงานกันต่อก็ต้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละ มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรอก ก็ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ” ชัยวุฒิกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตามข่าวที่ออกมา พรรค พปชร. ตั้งเป้าว่าจะได้ 70 เสียง เป็นไปตามนั้นหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ต้องทําโพล ซึ่งตัวเลข 70 ที่ออกมาเป็นการคาดการณ์ของบางคนที่มีการประเมินกัน บางคนก็ประเมิน 100 บางคนประเมิน 70 บางคนประเมิน 40 บางคนก็ประเมิน 150 ซึ่งเราอาจจะถึง 150 เสียงก็ได้ เพราะมีผู้สมัครเกรดเอ ตั้งเป้าไว้ 150 เสียง
“เป้า 150 ยังอยู่ ที่เราเคยพูดมาตลอดเพราะเรามี ส.ส. เกรดเอ 150 แต่ก็ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะชนะทุกคน มันก็อาจจะมีพลาดบ้าง” ชัยวุฒิกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่า 150 เสียงที่ตั้งเป้า มาจากเขตเท่าไรและปาร์ตี้ลิสต์เท่าไร ชัยวุฒิกล่าวว่า ตนจําไม่ได้ เรื่องนี้ถือเป็นความลับ บอกไม่ได้ เดี๋ยวคนเป็นเอบอกเป็นบี คนเป็นบีบอกเป็นเอ เขาจะงอนเอาได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กินข้าวกันบ่อย อาจจะมีการแถลงข่าวจับมือกัน เป็นไปได้หรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า เขาไม่ทำกันหรอก แถลงไม่ได้ มันเป็นกติกาประชาธิปไตย เลือกตั้งก็หาเสียงแข่งกันหมด ไม่มีจับมือกันหรอก บางจังหวัดเราก็แข่งกับพรรค ภท. บางจังหวัดก็แข่งกับพรรค รทสช. หรือบางจังหวัดก็แข่งกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่มีมาจับมือกันหรอก บางทีพรรคจับมือกัน แต่ผู้สมัครแข่งกันก็มี เพราะฉะนั้นบางพื้นที่ไม่เกี่ยวกับพรรค ในสนามยังสู้กันเต็มที่เหมือนเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การกินข้าวก็มีนัยทางการเมืองอยู่แล้ว ชัยวุฒิกล่าวว่า ก็มองอย่างนั้นได้ เราพร้อมทำงานร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนอนุทินจะเหยียบเรือสองแคม เพราะไปหาทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร หรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า “ทั้งลุงป้อม ลุงตู่ ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกัน จะแยกกันทําไมให้เหนื่อย ชัยวุฒิกล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ปิดประตูไม่ร่วมกับพรรค พท. แล้วใช่หรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า สมัยก่อนก็อยู่พรรคเดียวกัน แล้วก็แยกออกมากันตั้งเยอะตั้งแยะ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าพรรค พท. จะเป็นฝ่ายค้านต่อใช่หรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง