×

ชัชชาติ ถอดบทเรียนดูแลม็อบช่วงประชุม APEC ยืนยันความเป็นกลาง พร้อมหาแนวทางลดข้อขัดแย้ง

โดย THE STANDARD TEAM
21.11.2022
  • LOADING...

วันนี้ (21 พฤศจิกายน) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ครั้งที่ 25/2565 ว่า ภาพรวมการประชุม APEC ที่ผ่านมา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กทม. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องที่ต้องปรับปรุงเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ปรับปรุงได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องน้ำพุที่สระน้ำซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้น ต้องดำเนินการซ่อมแซม ควรต้องเตรียมการล่วงหน้าให้มีเวลาเหลือมากขึ้น 

 

ดังนั้นต้องมีผู้อำนวยการเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ประเด็นต่างๆ ได้ดี หรือการเทพื้นยางมะตอยแล้วทำให้เกิดน้ำขังบริเวณถนนอโศกบางช่วง แม้จะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมแต่ก็เป็นจุดที่ต้องดูให้ละเอียด สำหรับเรื่องการประสานงานไม่ได้มีปัญหาอะไร 

 

ในส่วนของผู้ชุมนุมที่เกิดขึ้นในช่วงการจัดประชุม APEC ชัชชาติกล่าวว่า กทม. ได้หารือกับฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง การเปิดพื้นที่ลานคนเมือง กทม. ไม่ได้คิดเอง โดยมีการหารือกับทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็เห็นด้วย 

 

“ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้ 1 เดือน ได้เปิดให้ลานคนเมืองเป็น 1 ใน 7 ที่ชุมนุมสาธารณะ มีคนขอใช้ทั้งหมด 36 ครั้ง โดย 14 ครั้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง อีก 22 ครั้งเป็นเรื่องอื่นๆ ทั่วไป จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมาเป็นพื้นที่ให้แสดงออกได้ ช่วยลดความขัดแย้งและปัญหาต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้คนมาใช้พื้นที่นี้เพื่อแสดงความแตกต่าง และทำให้การวางแผนการบริหารจัดการต่างๆ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” ชัชชาติกล่าว

 

ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เราทำถือว่าเราได้คิดละเอียดแล้ว อาจจะมีปัญหาที่ผู้ชุมนุมขยับออกไปและเกิดการปะทะขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด แต่ต้องเรียนว่ายังดีกว่าไม่มีพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมากหาก กทม. บอกว่าไม่ให้มีการชุมนุม แต่มันเป็นการโยนภาระให้คนอื่น กลายเป็นว่าผู้ชุมนุมไม่มีที่ชุมนุมที่เป็นสัดเป็นส่วน ก็ต้องไปชุมนุมที่อื่นบนพื้นที่สาธารณะหรือถนน ยิ่งไปสร้างปัญหา 

 

หากคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะไปชุมนุมที่ไหน การรับมือยิ่งยากลำบากมากขึ้นอีก แต่การที่เรากำหนดพื้นที่ให้เขาสามารถพูดหรือแสดงออกได้ ผมว่าก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน แต่อาจจะมีจุดที่เกิดข้อผิดพลาดบ้าง ก็เป็นบทเรียนที่ต้องพัฒนาขึ้น

 

ชัชชาติกล่าวต่ออีกว่า ในส่วน กทม. เอง บทเรียนที่ได้คุยเรื่องจุดชุมนุมนี้ คือปัญหาเกิดจากที่คนออกจากลานคนเมืองไปยื่นหนังสือ การแก้ปัญหาในอนาคตจะจัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันได้หรือไม่ หรือมีการประชุมที่มีผู้แทนจากต่างประเทศมา จัดผู้แทนจากต่างประเทศมาเจอผู้ชุมนุมที่ลานคนเมืองได้หรือไม่ 

 

จะได้ไม่มีข้ออ้างว่าจะต้องออกจากพื้นที่ อย่างประเด็นที่ผู้ชุมนุมเสนอก็ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าเขาต้องการอะไรในรายละเอียด เราอาจจะเข้าไปสรุปประเด็นว่าเขาต้องการอะไร เพื่อจะได้ทำข้อเสนอให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ กทม. ช่วยให้การประชุมครั้งหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น 

 

“ขอบคุณทุกคนที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งตรงกับแนวคิดของ APEC คือ Open คือเราเปิดเผย มีพื้นที่ชุมนุม Connect คือเชื่อมโยงคนทุกคนไม่ว่าความเห็นแตกต่างกันอย่างไร และ Balance คือต้องหาความสมดุลของผู้ที่เห็นต่าง” ชัชชาติกล่าว

 

ชัชชาติยังได้ให้ความเห็นเรื่องการชุมนุม โดยมองว่าทุกคนเป็นคน กทม. ซึ่งจริงๆ แล้วคนจะมาชุมนุมเพื่อสนับสนุนการประชุม APEC ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉะนั้นเนื้อหาเราไม่เคยรู้เลยว่าใครเป็นใคร เราดูแลทุกคนเท่าเทียมกัน บางเรื่องอย่าเอาไปเป็นประเด็นทางการเมือง 

 

เราเองอยู่ตรงนี้ถือว่าเราเป็นกลาง เพราะไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง เราเป็นอิสระ และคิดว่าสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของ กทม. การประชุม APEC ครั้งนี้ ในแง่ของการประชุมก็จัดไปได้อย่างราบรื่น ผู้นำทุกคนชื่นชมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผลลัพธ์ออกมาคือสิ่งที่เราคาดหวังว่าอยากจะให้มันดี อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ไม่ได้บานปลายขนาดที่จะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อการประชุม นี่คือยุทธศาสตร์ที่เราพยายามวางไว้ 

 

“ตอนนี้เราดูแลงานเมืองอยู่ ก็อยากให้งานเมืองผ่านไปด้วยความเรียบร้อยที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นคงต้องทบทวนกับฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งว่าจุดตรงนี้มีอะไรที่จะปรับปรุงหรือไม่ อนาคตพื้นที่นี้ยังมีความเหมาะสมอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนในอนาคตได้ คงต้องคุยกับทางตำรวจอีกครั้งหนึ่ง” ชัชชาติกล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X