×

ครั้งแรกของไทยกับช้อปปิ้งมอลล์ติดทะเล! ‘กลุ่มเซ็นทรัล’ ลงทุน 3 พันล้านบาท เปิด ‘วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ’ ที่พัทยา ตั้งเป้าลูกค้า 1 ล้านคนต่อปี

09.05.2022
  • LOADING...
วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ

‘กลุ่มเซ็นทรัล’ เดินหน้าลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท เปิด ‘วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ’ ที่พัทยา ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของไทยกับช้อปปิ้งมอลล์ที่อยู่ติดทะเล

 

โครงการวงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ ถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ผสมผสานธรรมชาติเข้ากับพื้นที่โครงการได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว โดยภายในโครงการสามารถเก็บต้นไม้เดิมซึ่งมีขนาดใหญ่ได้มากกว่า 200 ต้น และมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่โครงการ ซึ่งมีทั้งหมด 13.5 ไร่

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 


 

ในขณะที่อาคารของโครงการจะมาในรูปแบบชั้นเดียว ลดการใช้คอนกรีตหรือวัสดุสังเคราะห์ เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในการก่อสร้าง เช่น หญ้าแฝก ไม้ไผ่ เป็นต้น ห้อมล้อมด้วยทางเดินที่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นทราย บนพื้นที่มากกว่า 10,000 ตร.ม. 

 

กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการจะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งคนในพื้นที่ คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่พัทยา และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว รวมถึงกลุ่มคู่รัก กลุ่มเพื่อน โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างน้อย 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดการณ์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเมืองพัทยาที่อยู่ที่เกือบ 16 ล้านคน ในปี 2562

 

“โครงการยังมุ่งที่จะช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่เมืองพัทยา และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของโลก ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐอีกด้วย” พงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าว

 

วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ แบ่งการเปิดบริการออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการในช่วงสิ้นปี 2565 และพร้อมเปิดให้บริการเฟสที่ 2 ในช่วงปี 2566 ทั้งนี้โครงการตั้งอยู่ที่หาดวงศ์อมาตย์ ห่างจากมอเตอร์เวย์ 4 กม. สามารถเดินทางเข้ามาได้จากทั้งซอยนาเกลือ 16 และซอยนาเกลือ 18

 

อย่างไรก็ตามแม้กลุ่มเซ็นทรัลจะมีบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ดูแลธุรกิจศูนย์การค้า และมีบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ดูธุรกิจห้างสรรพสินค้าและอื่นๆ อยู่แล้วก็ตาม

 

แต่บริษัทแม่ก็ยังลงทุนในธุรกิจค้าปลีกด้วยตัวเองอยู่เช่นกัน โดยปัจจุบันในไทยมีทั้งหมด 10 แห่งด้วยกันคือ ไชน่าเวิลด์ วังบูรพา, หัวหมาก ทาวน์เซ็นเตอร์, มาร์เก็ตเพลส วงศ์สว่าง, บ้านสีลม, จิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์, ท็อปส์ มาร์เก็ตเพลส อุดมสุข, ปอร์โต เดอ ภูเก็ต, แพลตฟอร์ม วงเวียนใหญ่, จริงใจ มาร์เก็ต เชียงใหม่ และเซ็นทรัล สีลม ทาวเวอร์

 

ก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าได้ลงนามสัญญาเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าในประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์ รวม 18 แห่ง อสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง และดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด ด้วยมูลค่ากว่า 4 พันล้านปอนด์ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท

 

โดยกลุ่ม Selfridges จะเข้ามาเสริมทัพห้างสรรพสินค้าหรูในประเทศท่องเที่ยวชั้นนำ ที่กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าดำเนินธุรกิจอยู่ เช่น Rinascente ประเทศอิตาลี, ILLUM ประเทศเดนมาร์ก, Globus ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, กลุ่ม KaDeWe ประเทศเยอรมนี และออสเตรีย หลังจากการรวมธุรกิจใหม่นี้จะทำให้กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งหมด 5 พันล้านยูโรในปี 2019 และคาดว่าจะเติบโตถึง 7 พันล้านยูโรในปี 2024 จาก 8 ประเทศ และ 35 เมืองสำคัญในยุโรป

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising