×

กลุ่มเซ็นทรัลผนึกกำลังห้างดังยุโรป เปิดบริการช้อปปิ้ง on demand ข้ามทวีป

13.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวแอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์ AVDM พร้อมบริการช้อปปิ้งข้ามแดนร่วมกับห้างพันธมิตรในยุโรปผ่าน Whatsapp และ Central On Demand บริการช้อปปิ้งสินค้าห้างเครือเซ็นทรัลในไทยผ่าน Line
  • ศึกค้าปลีกไทยเดินกลยุทธ์ผนึกกำลังกับพันธมิตรในภูมิภาคต่างๆ เช่น กลุ่มเซ็นทรัลจับมือกับห้างใหญ่ในยุโรป ขณะที่สยามพิวรรธน์เน้นขยายความร่วมมือกับห้างในเอเชีย

     ค้าปลีกไทยปีนี้ดูจะปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน คือปรับกลยุทธ์เชื่อมโยงประสบการณ์ออฟไลน์กับออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกช่องทาง (Omnichannel) และผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลก

     หลังจากประกาศว่าจะยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งไร้พรมแดนในงานแถลงข่าวครบรอบ 70 ปี (อ่านต่อ) ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวบริการช้อปปิ้งไร้พรมแดน ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โอ วิลส์ ดู มองค์ (Aux Villes Du Monde) หรือ AVDM แพลตฟอร์มเชิงไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลและห้างพันธมิตรในยุโรปเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวบริการช้อปปิ้งแบบ on demand ผ่านช่องทางแชต เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ

 

 

AVDM ผนึกกำลังห้างดังในยุโรป เชื่อมประสบการณ์ช้อปข้ามโลก

     ความน่าสนใจของ AVDM คือ ไม่ใช่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แต่เน้นนำเสนอคอนเทนต์และบริการเชิงไลฟ์สไตล์ในรูปแบบนิตยสารดิจิทัล รองรับ 8 ภาษา เช่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร กิจกรรมไลฟ์สไตล์ และห้างสรรพสินค้า พร้อมเชื่อมประสบการณ์ช้อปปิงในห้างสรรพสินค้าหรูของกลุ่มเซ็นทรัลในไทยและห้างพันธมิตรในยุโรปมาไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย

     เซ็นทรัล ชิดลม, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในกรุงเทพฯ และห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต, ห้าง La Rinascente เมืองมิลาน และแฟล็กชิปสโตร์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี (เปิดบริการ 12 ตุลาคมนี้), ห้าง KaDeWe ในเบอร์ลิน, Oberpollinger ในมิวนิก, Alsterhaus ในฮัมบูร์ก เยอรมนี, Goldenes Quartier ในเวียนนา ประเทศออสเตรีย และ Illum ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

 

 

     ยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “ลูกค้าของเรากระจายไปกว้างมาก การช้อปปิ้งในยุคนี้ต้องมีไลฟ์สไตล์ เราต้องการเป็น store ในเมืองนั้นๆ โมเดลของเราคือการควบห้างให้เป็นเนื้อเดียวกัน”

     แล้วจะช้อปยังไง? AVDM มีบริการ on demand ให้ลูกค้าทั่วโลกสั่งซื้อของจากห้างที่เข้าร่วมชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp โดยจะเลือกส่งสินค้าถึงบ้าน หรือรับสินค้าในห้างก็ได้ พร้อมกับประกาศว่าจะจัดส่งไม่เกิน 5 วัน อีกทั้งสามารถพูดคุยสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ห้างแบบ live chat ได้ด้วย

     นอกจากนี้ยังมีบริการติดต่อกับ Conceirge ในห้างให้ช่วยจองนัดหมายต่างๆ ระหว่างการเดินทาง เช่น จองโรงแรมและร้านอาหารในเมืองนั้นๆ

 

 

ส่ง Central On Demand ตอบโจทย์ลูกค้าไทยแบบรายบุคคลผ่าน Line

     กลับมาที่ฝั่งไทย เซ็นทรัลยังเปิดตัวบริการ Central On Demand สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาห้าง หรือไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่มีสาขาของเซ็นทรัล ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าของห้างได้ตรงตามความต้องการของตัวเองมากขึ้นในเครือเซ็นทรัล 22 แห่งในไทย รวมทั้ง ZEN ผ่านทางแอปพลิเคชัน Line และสอบถามพนักงานผ่าน live chat ได้เช่นกัน

     ด้าน สิริเกศ จิรกิติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ชี้ว่า บริการนี้จะช่วยให้ลูกค้าเลือกหาและซื้อสินค้าได้ตามความต้องการ ไม่ใช่แค่ในแคตตาล็อกหรือเว็บไซต์ ซึ่งถือว่านำจุดเด่นของการพูดคุยกับพนักงานในห้างแบบออฟไลน์ มาผนวกกับการช้อปออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยตั้งเป้าว่าจะมียอดฟอลโลว์ Central On Demand บน Line ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ภายในสิ้นปีนี้

     จะเห็นได้ว่าเซ็นทรัลเลือกปรับกลยุทธ์มาสู่ Social Media Commerce ซึ่งเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม เลือกใช้แพลตฟอร์มได้ตรงกลุ่ม ทั้ง WhatsApp ที่นิยมใช้ในยุโรปและ Line ในไทย


Photo: JD.com


ศึกค้าปลีก ท้าชนด้วยพันธมิตร?

     ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลเดินหน้าผนึกกำลังกับห้างในยุโรป สยามพิวรรธน์ก็เดินเกมขยายความร่วมมือในฝั่งเอเชีย โดยได้พันธมิตร 4 ห้างสรรพสินค้าดังในเอเชีย มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อพัฒนาประสบการณ์ให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน คือ ศูนย์การค้าฮ่องกง ไทม์สแควร์, ศูนย์การค้าไอออน ออร์ชาร์ด สิงคโปร์, ห้างสรรพสินค้าไทเป 101 ไต้หวัน และห้างสรรพสินค้าปาร์คโก้ ญี่ปุ่น

     แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มเซ็นทรัลจะยังมีอีกหนึ่งพันธมิตรรายใหญ่ที่โลดแล่นในสมรภูมิออนไลน์ นั่นคือ JD.com อีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนที่มาแรงและสื่อหลายสำนักเรียกว่าเป็น ‘Amazon แห่งเมืองจีน’ JD.com เดินรอยตาม Amazon ลงทุนไปมหาศาลกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในโรงงานและระบบโลจิสติกส์ของตัวเอง เช่น ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติทำงานในโกดังและศูนย์กระจายสินค้า ใช้โดรนจัดส่งสินค้า

     23 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า JD.com ได้เข้าเจรจากับกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเปิดตัวอีคอมเมิร์ซในไทย ในลักษณะของการร่วมทุน (joint venture) โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวว่าดีลครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์!
รอยเตอร์สยังรายงานว่าบิ๊กดีลดังกล่าวจะช่วยให้ JD.com ขยายตลาดเข้ามาในภูมิภาคนี้ได้มากขึ้น หลังจากปักธงในอินโดนีเซียไปแล้ว และต่อกรกับคู่แข่ง Alibaba และ Amazon ในอาเซียน อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ยอมรับหรือเปิดเผยข้อตกลงชัดเจนแต่อย่างใด

     หากกลุ่มเซ็นทรัลจับมือกับ JD.com รายนี้จริง ก็น่าจะช่วยเสริมทัพความแข็งแกร่งด้านอีคอมเมิร์ซของเซ็นทรัลไปอีกขั้น หลังจากที่เซ็นทรัลได้เข้าซื้อ Zalora และรีแบรนด์ใหม่เป็น Looksi รวมทั้งต้านแรงกดดันจาก Alibaba กับ Amazon

     เหลือแต่ว่าค้าปลีกรายอื่นในไทยจะปรับตัวกันต่อไปอย่างไร ทั้งในสมรภูมิออฟไลน์และออนไลน์

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising