เราได้เห็นตัวอย่างมามากมายจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของคนเล็กๆ ที่เติมเต็มตัวเองด้วยแรงบันดาลใจเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนความฝันจนประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก่อตั้ง Facebook เมื่อมีอายุเพียง 20 ปี

อลิสซา คาร์สัน มุ่งมั่นที่จะเป็นนักบินอวกาศมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และขวนขวายจนได้เป็นนักศึกษาฝึกงานในองค์การนาซา

ศิลปินสาวชื่อก้องชาวนิวซีแลนด์นามว่า ลอร์ด อยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่ 5 ขวบ และผลักดันตัวเองด้วยการไปประกวดร้องเพลง กระทั่งมีแมวมองมาจีบ ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง จนมีวันที่เป็นศิลปินเดี่ยวชาวนิวซีแลนด์คนแรกที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ของโลก

 

 

ภาพของ Twopee หรือ โต้ง-พิทวัส พฤกษกิจ แรปเปอร์หนุ่มสัญชาติไทยที่กลั่นแรงบันดาลใจที่มีต่อดนตรีฮิปฮอปออกมาเป็นความสามารถทางด้านแรปเปอร์อันเฉียบขาด แล้วเดินตามความฝันด้วยพลังที่มีอย่างเปี่ยมล้นจนได้เป็นศิลปินแรปที่หาตัวจับยากอีกคนหนึ่งของไทยสมความตั้งใจในปัจจุบัน ฯลฯ

 

นี่เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่มีพลังในการตามฝันท่ามกลางประชากรโลกกว่า 7 พันล้านคน เราเชื่อว่ายังมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนไม่น้อยที่มีพลังและกำลังขับเคลื่อนความฝันของตัวเองอยู่

นั่นคือระดับของปัจเจกบุคคลซึ่งเราอาจคุ้นเคยและพบเห็นกันได้บ่อยๆ แต่กับแบรนด์สินค้า มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ที่แบรนด์เครื่องดื่มเอเนอร์จีดริงก์จากประเทศโลกที่สามจะสามารถข้ามน้ำข้ามทะเลไปเจาะตลาดได้ไกลถึงประเทศอังกฤษ ก่อนวกกลับมาเป็นขวัญใจผู้คนในแผ่นดินแม่ได้อีกครั้ง

 

 

แต่ CarabaoCan สามารถทำได้ แถมยังเฉิดฉายในฐานะแบรนด์ระดับโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

สำหรับคนไทย จังหวะนี้อาจเป็นช่วงแรกๆ ที่เราได้ทำความรู้จักกับเครื่องดื่มกระป๋องสีเขียวสะท้อนแสงแสบสันทันสมัยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในท้องตลาดบ้านเรา (นอกเหนือจาก คาราบาวแดง ที่เรารู้จักกันมาเกือบ 16 ปีแล้ว) ทว่ากับประชากรอังกฤษนั้น พวกเขาคุ้นเคยกับ CarabaoCan กลิ่น Green Apple ในฐานะเครื่องดื่มคุณภาพรสชาติดีเยี่ยม (Superior Taste) ที่ช่วยเรียกพลังกลับคืนมาได้สักระยะแล้ว

 

 

สิ่งที่ CarabaoCan ทำคือมุ่งมั่นสร้างสรรค์ตัวเองออกไปสู่ระดับอินเตอร์ เสมือนเป็นตัวแทนชีวิตของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีความฝัน มีแรงบันดาลใจ แล้วก็กล้าที่จะดึงศักยภาพตัวเองออกมา แสดงออกซึ่งความเป็นผู้นำ ความคิดสร้างสรรค์ การคิดต่างอย่างมีคุณค่า ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตและลงมือทำ เข้ากับเทรนด์ของคนยุคมิลเลนเนียลที่ไม่ได้ต้องการแค่ชื่อเสียงหรือความมั่นคง แต่ต้องการคุณค่ามาเติมเต็มด้านในของตัวเอง จึงออกไปทำตามความฝันอันเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า ไม่ใช่แค่กับคนรุ่นใหม่ที่อังกฤษเท่านั้น หากแต่ที่บ้านเราเอง CarabaoCan ก็กำลังผูกรวมอยู่กับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวเมืองไทยได้อย่างกลมกลืน โดยเริ่มต้นจากการใช้พลังของกีฬา (Sport Marketing) มาเป็นเครื่องมือในการกระชับมิตรกับกลุ่มเป้าหมายที่ทางแบรนด์วางไว้ โดย Carabao ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้สนับสนุนการถ่ายทอดฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด รวมถึงยังเป็นพาร์ตเนอร์หลักให้กับสโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่างเชลซีอีกด้วย นี่จึงเป็นหมัดเด็ดในการจับใจทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และกลุ่มเจนวาย คนกลุ่มนี้มีจุดร่วมเดียวกันคือชื่นชอบกีฬา ความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และพร้อมเปิดรับประสบการณ์ท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ เข้ากับคอนเซปต์ ‘Don’t Say Can’t, Carabao CAN – อย่าบอกตัวเองว่าทำไม่ได้’

พลังแห่งแรงบันดาลใจที่แรงกล้าคือเครื่องยนต์ชั้นเยี่ยมที่จะนำพาชัยชนะให้กับทุกสิ่ง ทั้งระดับปัจเจกชน หรือแม้กระทั่งแบรนด์สินค้าอย่าง CarabaoCan ที่สามารถตอกย้ำจุดเด่นและผลักดันตัวเองไปไกลถึงระดับแบรนด์สากลจนพิชิตใจผู้บริโภคได้ในระดับเวิลด์ไวด์ บุกตลาดโลกซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลได้ ล้างคำสบประมาทที่ว่าทำไมคนไทยจะสร้างสรรค์แบรนด์ระดับโลกไม่ได้ ทั้งๆ ที่ดีไซน์ก็เก๋ไก๋และขายดีในตลาดโลก

 

 

ครั้งหนึ่ง วอลต์ ดิสนีย์ หนึ่งในบุรุษผู้เชื่อในจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก เคยลั่นอมตะวาจาอันเฉียบคมที่ยังคงเป็นสากลในทุกยุคทุกสมัยว่า “If you can dream, you can do it – แค่ฝันเป็นก็สามารถทำให้เป็นจริงได้” ในทำนองเดียวกัน กับแบรนด์เล็กๆ ในมุมหนึ่งของโลกก็สามารถผงาดในระดับสากลได้ เพียงมีฝันใหญ่ๆ แล้วลงมือทำให้แบรนด์ไปให้ถึงจุดนั้น อาจเป็นการสร้างเรื่องราวที่แตกต่างในรูปแบบที่ตัวเองเป็น หาช่องว่างความคาดหวังใหม่ๆ ของลูกค้า แล้วครีเอตนวัตกรรมสินค้าและบริการให้เข้าถึงใจผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอก็จะได้ก้าวสู่แบรนด์ยอดนิยมของสังคมสมใจ

พิสูจน์แล้วว่า CarabaoCan ทำได้ และไปถึงจุดนั้นได้สำเร็จ

 

Don’t say can’t ไปด้วยกันที่ www.facebook.com/CarabaoDang/videos/1657194317650485/