×

ยอดขายรถยนต์ ก.พ. 2567 ลดลง 26.1% กระบะ – EV กอดคอหดตัว ชี้แบงก์คุมเข้มห่วงหนี้เสีย หวังมอเตอร์โชว์กระตุ้นตลาด

03.04.2024
  • LOADING...

โตโยต้า ประกาศยอดขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จำหน่ายได้ 52,843 คัน ลดลง 26.1% จากปีก่อน รถที่ยอดขายหดตัวมากที่สุดคือกระบะขนาด 1 ตัน ลดลง 44% รองลงมาเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ 29.4% และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 20.1% ค่ายรถยนต์หวังงานมอเตอร์โชว์จะช่วยกระตุ้นยอดขายปิดไตรมาสแรกของปี

ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเดือนกุมภาพันธ์อาจลุ้นไม่ขึ้น และไม่คึกคักตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ 

 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ด้วยยอดขาย 52,843 คัน ลดลง 26.1% ประกอบด้วย 

  1. รถยนต์นั่ง 19,861 คัน ลดลง 20.1% 
  2. รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 32,982 คัน ลดลง 29.4% 
  3. รถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 15,535 คัน ลดลง 43.2%

 

ส่วน 5 อันดับแบรนด์รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ มีดังนี้

  • อันดับ 1 Toyota 19,702 คัน 
  • อันดับ 2 Honda 8,587 คัน
  • อันดับ 3 Isuzu 7,653 คัน 
  • อันดับ 4 Mitsubishi 2,655 คัน 
  • อันดับ 5 Ford 2,206 คัน

 

EV เร่งจดทะเบียนเป็นเหตุ ทำให้เดือนกุมภาพันธ์ชะลอตัว 

 

ขณะที่ฝั่งรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านโครงการ EV 3.0 ที่ขยายระยะเวลาการจดทะเบียนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ภาษีภายในสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ค่ายรถต่างเร่งจดทะเบียนให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกันรัฐบาลได้สานต่อด้วยโครงการ EV 3.5 ที่ให้ส่วนลดสนับสนุน 100,000 บาท สำหรับรถยนต์ราคาไม่เกิน 2,000,000 บาท โดยยังมีค่ายรถยนต์ที่เซ็นจากโครงการ EV 3.0 เข้าร่วมต่อ แต่กำลังซื้อรวมถึงความสนใจของลูกค้าเกิดชะลอตัว จนทำให้บางค่ายรถยนต์ลดราคาเพื่อกระตุ้นตลาด ขณะเดียวกันยังมีแบรนด์น้องใหม่ที่เตรียมเข้าทำตลาด และสร้างโรงงานผลิตโดยตั้งให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตและส่งออกในแถบอาเซียน  

 

สำหรับ 5 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ มีดังนี้

  1. BYD 1,068 คัน
  2. Tesla 670 คัน
  3. MG 400 คัน
  4. Aion 344 คัน
  5. Volvo 182 คัน

 

กระบะร่วงต่อเนื่อง ไฟแนนซ์เข้ม ค่ายรถหาช่องทางขายเพิ่ม

 

ด้านตลาดรถกระบะถือเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุด ในเดือนกุมภาพันธ์ยอดขายรวมอยู่ที่ 15,535 คัน ลดลง 43.2% สาเหตุมาจากสถาบันการเงินมีมาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากปริมาณหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตลาดรถกระบะชะลอตัวลง อีกทั้งรถกระบะมีการปรับปรุงเพื่อผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5 ซึ่งรถที่ผลิตในปี 2024 จะต้องมีระบบกรองเขม่าไอเสียมาจากโรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องปรับเพิ่มราคาเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน 

 

  • อันดับที่ 1 Toyota 7,386 คัน
  • อันดับที่ 2 Isuzu 5,705 คัน
  • อันดับที่ 3 Ford 1,453 คัน
  • อันดับที่ 4 Mitsubishi 701 คัน
  • อันดับที่ 5 Nissan 227 คัน

 

สงครามราคา กระตุ้นการซื้อแต่ส่งผลสภาพตลาดระยะยาว

 

กลยุทธ์สำคัญที่ค่ายรถยนต์เริ่มหันมาใช้มากขึ้นนั่นคือ ‘ราคา’ ทั้งการตรึงราคาเดิมเพิ่มอุปกรณ์ และลดราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฝั่งค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นเริ่มใช้กลยุทธ์ทั้งการตรึงราคากับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ปรับโฉม และลดราคาให้กับรุ่นที่จำหน่ายในตลาดมานาน แม้ว่าการใช้กลยุทธ์ลดและตรึงราคาจะมีผลดี และช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็ตาม แต่ผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ราคาขายต่อและการควบคุมต้นทุนของรถยนต์ ทำให้ตัวรถไม่สามารถจำหน่ายถึงจุดคุ้มทุนได้ อีกทั้งความเชื่อมั่นของลูกค้าถูกลดลง ทำให้เกิดการชะลอการซื้อรถ 

 

มอเตอร์โชว์คือความหวังก่อนปิดยอดไตรมาสแรก

 

แม้ว่ายอดขายเดือนกุมภาพันธ์จะพอบอกทิศทางได้ถึงตลาดรถยนต์ในเมืองไทยที่อาจทรงตัว และไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตัวกลับไป อย่างไรก็ตามค่ายรถยนต์มองว่าเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดงานมอเตอร์โชว์ 2024 ค่ายรถคาดว่างานดังกล่าวจะสามารถสร้างความคึกคักให้กับตลาดได้ ทั้งข้อเสนอจากรถยนต์รุ่นต่างๆ รวมทั้งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ที่ต่างขนทัพมาแนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทางเลือกและสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากขึ้น



จาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายกิจกรรมพิเศษ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ระบุถึงยอดจองในมอเตอร์โชว์ว่า ปีนี้ตั้งเป้าว่ายอดจองรถยนต์ภายในงานเพิ่มขึ้น 15-20% จากปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากปัจจัยบวกในหลายด้าน โดยเฉพาะการเข้ามาของผู้ผลิตรถรายใหม่ ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ไทยช่วงไตรมาสแรกของปีนี้



“อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่าการเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนและเวียดนาม จะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีสีสันมากขึ้น และเป็นโอกาสที่ดีของผู้บริโภคที่จะเลือกใช้รถยนต์ตามความต้องการได้ในราคาที่เหมาะสม และที่สำคัญผู้เข้าชมงานสามารถเลือกชมเลือกซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกแบรนด์ ทุกรุ่น และทุกแคมเปญ ที่มีจำหน่ายในประเทศได้ภายในงานเดียวอีกด้วย” จาตุรนต์กล่าว

 

ค่ายรถยนต์ประเมินยอดขายปีนี้ราว 730,000 คัน ต่ำลง 7% 

 

โนริอากิ ยามาชิตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยค่อนข้างนิ่ง โดยเฉพาะตัวเลขตลอดปี 2023 มีความเป็นไปได้ว่ายอดขายปีนี้อาจต่ำกว่า 750,000 คัน ทั้งนี้ มีสัญญาณบวกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายของประชาชนเริ่มฟื้นตัว เชื่อว่าเศรษฐกิจ ณ เวลานี้อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น

 

“ปี 2023 ยอดขายรวม 770,000 คัน ครึ่งหลังของปีตลาดรถซบเซาโดยเฉพาะไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดมีภาวะยากลำบาก ขณะที่ตลาดกระบะมีการเพิ่มมาตรการเข้มงวดจากธนาคารและหนี้ครัวเรือน ทำให้ยอดขายลดลง 30% ทั้งนี้ ด้วยมาตรการเข้มงวดของธนาคารและการควบคุมหนี้เสีย ปัจจัยนี้คาดการณ์ว่าปี 2024 จะมียอดขายรถยนต์รวม 730,000 คัน ต่ำกว่าปีก่อน 7% ในขณะที่ส่วนของโตโยต้าหวังจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 34.8% จากปีก่อน ยอดขายรวม 260,000 คัน”  

 

ถึงแม้จะมีค่ายรถจีนและรถ EV ทำให้การแข่งขันสูง แต่เชื่อได้ว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะทำได้ โดยโตโยต้าได้วางกลยุทธ์การขายตลอดทั้งปี ส่วนระยะกลาง-ยาวเป็นอย่างไร จะพิจารณาตามสถานการณ์ของตลาด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising