×

ครม. ออกมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 เพิ่มเติม ยื้อตลาดหุ้นปิดในแดนบวกวันนี้

โดย SCB WEALTH
24.03.2020
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

วันนี้ (24 มีนาคม 2563) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการดูแล และเยียวยาผลกระทบทางโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 โดยมาตรการช่วยเหลือประชาชนประกอบด้วย

 

  1. สนับสนุนเงินคนละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน สำหรับแรงงานลูกจ้างที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมจำนวน 3 ล้านคน สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมเพิ่มสิทธิเป็น 50% ของค่าจ้างกรณีว่างงาน

 

  1. สินเชื่อฉุกเฉิน 1 หมื่นบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน

 

  1. สินเชื่อพิเศษ 5 หมื่นบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ต้องมีหลักประกัน

 

  1. ให้สำนักงานธนานุเคราะห์รับจำนำดอกเบี้ยต่ำที่อัตรา 0.125% ต่อเดือน

 

  1. ยืดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563

 

  1. หักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท จาก 15,000 บาท

 

  1. เว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าเสี่ยงภัยให้บุคลากรทางการแพทย์

 

  1. มาตรการฝึกอบรมมีเงินใช้

 

สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้แก่

 

  1. สินเชื่อเพื่อรายย่อยไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 3% ใน 2 ปีแรก

 

  1. ยืดการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ออกไปเป็นเดือนสิงหาคมและกันยายน 2563 สำหรับ ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ตามลำดับ

 

  1. ยืดการเสียภาษีสรรพากรอื่นๆ ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบออกไป 1 เดือน

 

  1. ยืดการเสียภาษีสรรพาสามิตให้กิจการสถานบริการออกไป 3 เดือน

 

  1. ยืดการเสียภาษีสรรพสามิตสำหรับผู้ประกอบการน้ำมันออกไปเป็นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ระยะเวลา 3 เดือน

 

  1. ยกเว้นภาษีอากรสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19

 

  1. ยกเว้นภาษีและลดค่าธรรมเนียมจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับเจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ SET Index เคลื่อนไหวผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยในช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นสู่ระดับ 1,067.02 จุด เพิ่มขึ้น 42.56 จุด และย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวในระดับ 1,027 จุด 

 

ขณะที่ช่วงบ่ายมีการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ทำให้ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นและปิดที่ระดับ 1,033.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.38 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.92% DoD โดยหุ้นที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อดัชนีในวันนี้นำโดย 

  • บมจ.ปตท. (PTT) เพิ่มขึ้น 6.42% มีผลต่อดัชนี 4.65 จุด
  • บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.19% มีผลต่อดัชนี 1.66 จุด
  • บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 6.76% มีผลต่อดัชนี 1.38 จุด
  • บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.59% มีผลต่อดัชนี 1.0 จุด
  • บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 6.34% มีผลต่อดัชนี 0.84 จุด

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS มองว่ามาตรการที่ประกาศออกมาในวันนี้สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะมาตรการแจกเงินสำหรับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ในระยะเวลา 3 เดือนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อผู้ประกอบการกลุ่มค้าปลีก ขณะที่มาตรการลดภาระภาษีจะเป็นปัจจัยหนุนโดยรวมแก่ทางผู้ประกอบการ

 

ในทางเทคนิค SCBS ประเมินแนวรับสำคัญของ SET Index อยู่ที่ระดับ 1,010 จุด หากหลุดแนวรับนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะลงไปทดสอบที่ระดับ 970 จุด (จุดต่ำเดิม)

 

ทั้งนี้ ต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการดูแลและเยียวยาเศรษฐกิจระยะถัดไป

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS มองว่าทิศทางตลาดหุ้นการเงินยังมีความผันผวนต่อไป จนกว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเริ่มเบาบางลง 

 

ทั้งนี้ SCBS ยังคงคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกจะรุนแรงขึ้นจนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอุณหภูมิทั่วโลกเริ่มอุ่นขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และการคิดค้นวัคซีน ซึ่งจะช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อได้ ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป รวมถึงต้องจับตาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่น วันที่ 8 เมษายน 2563 ขณะที่มณฑลหูเป่ย (ยกเว้นเมืองอู่ฮั่น) จะยกเลิกการล็อกดาวน์วันที่ 25 มีนาคม 2563

 

ข้อมูลพื้นฐาน:

ติดตามบทวิเคราะห์ ‘วิกฤต COVID-19…อ่านก่อนลงทุน (ครั้งที่ 2)’ ได้จากทาง SCBS

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising